เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “Blacklist” และมักเข้าใจว่าเป็นสถานะทางการเงินที่ระบุอยู่บนรายงานข้อมูลเครดิตที่จัดเก็บโดยเครดิตบูโร แต่แท้จริงแล้วนั่นถือเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด… แล้ว Blacklist คืออะไร วันนี้เรามาทำความเข้าใจกันใหม่ กับ 4 เรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับ Blacklist และ เครดิตบูโร เพื่อที่ข้อมูลจะไม่คาดเคลื่อนกันค่ะ
เรื่องที่ 1 – รู้จักเครดิตบูโร เป็นผู้ให้สถานะบัญชี Blacklist แก่ลูกหนี้จริงหรือไม่?
เครดิตบูโร มีหน้าที่รวบรวมจัดเก็บข้อมูลเครดิต ประวัติการชำระหนี้จากสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกของเครดิตบูโร โดยจะแสดงข้อมูลว่าที่ผ่านมาผู้กู้เคยขอสินเชื่ออะไรบ้างในช่วงที่ผ่านมา รวมไปถึงจำนวนบัญชีสินเชื่อที่มี การชำระหนี้ตรงหรือไม่ มีการค้างชำระเกิดขึ้นหรือเปล่า จะไม่มีแจ้งและให้สถานะบัญชี Blcklist แก่ผู้กู้หรือลูกหนี้แต่อย่างใด ซึ่งข้อมูลที่จัดเก็บ ได้แก่
– ข้อมูลส่วนบุคคล
ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด สถานภาพการสมรส ฯลฯ
– ข้อมูลประวัติสินเชื่อ
ข้อมูลบัญชีสินเชื่อทั้งหมด ประเภทและเลขบัญชีสินเชื่อ วงเงินที่ได้รับอนุมัติ และวงเงินที่ใช้ สถานะบัญชี ประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมา รวมไปถึงวันปิดบัญชี
เรื่องที่ 2 – ตกลงแล้วสถานะ Blacklist มีอยู่จริงไหม?
ในการจัดเก็บข้อมูลประวัติการชำระหนี้ เครดิตบูโรจัดเก็บตามความเป็นจริงที่สถาบันการเงินส่งข้อมูลมาที่เครดิตบูโร และไม่ได้มีหน้าที่ให้สถานะ “บัญชีดำ” หรือ “Blacklist” กับใคร ซึ่งหากลูกหนี้ชำระหนี้ตรงตามเวลาที่กำหนดก็จะแสดงประวัติชำระว่า “ไม่ค้างชำระ” แต่หากไม่ชำระตรงตามเวลาจะแสดงในประวัติว่า “ค้างชำระ”
เรื่องที่ 3 – ขอสินเชื่อไม่ผ่านอ้างว่าติด Blacklist จากเครดิตบูโร
เครดิตบูโรไม่ได้มีหน้าที่ให้สถานะบัญชีดำกับใคร และไม่มีส่วนร่วมในการอนุมัติ หรือตัดสินใจให้สินเชื่อกับใคร การที่ขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินไม่ผ่านอาจเกิดจากหลายปัจจัย ตามเงื่อนไขหรือเกณฑ์ที่สถาบันการเงินแต่ละแห่งกำหนดใช้ เช่น ภาระหนี้รวม รายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ เป็นต้น
เรื่องที่ 4 – เครดิตการเงินพังเกี่ยวกับ Blacklist ไหม แล้วส่งผลกระทบอะไรต่อตัวเรา
ในกรณีที่มีประวัติทางการเงินที่ไม่ดีอาจเกิดขึ้นมาจากการที่เราผิดนัดชำระหนี้ หรือมีประวัติ “ค้างชำระ” ในรายงานข้อมูลเครดิต เมื่อไม่มีการชำระหนี้ตรงตามระยะเวลาที่กำหนด ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อเครดิตทางการเงินของตัวเราเอง ทำให้ในการยื่นพิจารณาขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินผ่านได้ยากเนื่องจากขาดวินัยทางการเงิน แต่ทั้งนี้เราก็สามารถซ่อมเครดิตทางการเงินของตนเองขึ้นมาใหม่ได้ โดยการสร้างวินัยทางการเงิน ชำระหนี้ให้ตรงเวลาทุกครั้ง
สรุปแล้วเครดิตบูโรไม่ได้มีหน้าทีในการให้สถานะ Blacklist กับใครแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามหากพบว่ามีบุคคลใดแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่เครดิตบูโรเพื่ออนุมัติสินเชื่อ สามารถแจ้งเรื่องได้ที่ consumer@ncb.co.th