Blog

คอลัมน์เครดิตบูโรคิดเป็นเห็นต่าง : ข้อมูลเครดิตสำคัญอย่างไร : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ประจำวันที่ 11 เมษายน 2568

ข้อมูลเครดิตสำคัญอย่างไร

บทความวันนี้จะกล่าวถึงความสำคัญของข้อมูลเครดิต โดย บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) จะเปรียบเสมือนเป็น “ถังข้อมูลที่บ่งบอกพฤติกรรมในเรื่องการก่อหนี้ การชำระหนี้” ที่ใหญ่ที่สุดของระบบการเงินไทย หากใครก็ตามที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับธุรกรรมสินเชื่อในระบบ ก็สามารถขอตรวจสอบข้อมูลเครดิตเหล่านี้ได้จากเครดิตบูโร

 

เครดิตบูโรนับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของประเทศ และมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทย ทั้งสามภาคส่วน ดังนี้

1.ระบบเศรษฐกิจไทย

– เป็นสัญญาณเตือนภัยของระบบการเงิน คือ สามารถนำเอาข้อมูลเชิงสถิติมาวิเคราะห์ให้เห็นทิศทางและความเสี่ยงของธุรกรรมสินเชื่อในระบบ

– เป็นเครื่องมือในการอ่านสัญญาณเศรษฐกิจของสถาบันต่างๆ เพื่อไปคิดต่อว่าควรต้องออกมาตรการหรือต้องไปทำอะไรในเชิงการบริหารความเสี่ยง

– เป็น “โครงสร้างพื้นฐาน” ของระบบการเงิน คือ เป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ของระบบสถาบันการเงินในการนำมาใช้บริหารความเสี่ยงด้านการให้สินเชื่อ

“ป้องกันการเกิดความล่มสลายอย่างที่เกิดมาในอดีต หากระบบทุกส่วนตรงนี้ดีมีประสิทธิภาพ เชื่อว่าระบบการเงินจะไม่มีปัญหารุนแรงถึงขั้นต้องไปยุ่งกับการค้ำประกันเงินฝาก เพราะปัญหาจะถูกจัดการตั้งแต่ต้นมือ อีกทั้งก่อนที่เหตุการณ์ต่างๆ จะไปถึงจุดนั้น ต้องผ่านระบบการบริหารความเสี่ยงของสถาบันการเงินที่เข้มงวดเป็นอย่างมาก”

2.สถาบันการเงินในฐานะผู้ให้กู้หรือเจ้าหนี้

– มีระบบการบริหารความเสี่ยงในการให้กู้ยืม ป้องกันการเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ซึ่งอาจส่งผลต่อปัญหาความไม่มั่นคงแก่ระบบสถาบันการเงิน และระบบเศรษฐกิจไทยโดยรวม ผ่านการใช้ข้อมูลเครดิตบูโร

– ตรวจเช็กอาการของลูกหนี้ เพื่อวิเคราะห์หรือทบทวนสินเชื่อ จึงจำเป็นต้องทราบฐานะทางการเงินและประวัติการชำระหนี้ของผู้กู้อย่างเพียงพอ ว่ามีประวัติการชำระหนี้อย่างไร และมีภาระหนี้อยู่กับสถาบันการเงินอื่นมากน้อยเพียงใดในขณะใดขณะหนึ่ง

3.ผู้กู้หรือลูกหนี้

– ตรวจเช็กข้อมูลเครดิต หรือตรวจเช็คสุขภาพทางการเงินของตัวเอง เพื่อป้องกันภัยการเงินและเตรียมพร้อมวางแผนก่อนจะไปขอกู้

– ตรวจเช็กประวัติการชำระทุกข้อมูลบัญชีสินเชื่อ หากข้อมูลไม่ถูกต้อง ขอแก้ไขได้

– การมีข้อมูลเครดิต สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อได้

– มีโอกาสที่จะได้ลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้ผู้กู้ที่มีประวัติผ่อนชำระดี

การขอตรวจสอบกรณีถูกปฏิเสธสินเชื่อ

ขั้นตอนการยื่นขอตรวจสอบข้อมูลเครดิตสำหรับบุคคลเจ้าของข้อมูลกรณีถูกปฏิเสธการให้สินเชื่อ

ในกรณีที่ถูกปฏิเสธการให้สินเชื่อจากสถาบันการเงิน และมีหนังสือแจ้งการปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่มีข้อความว่าเป็นผลจากการตรวจสอบข้อมูลเครดิตจากบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด บริษัทจะเปิดให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ผู้เป็นเจ้าของข้อมูลสามารถตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวได้ทางที่ทำการบริษัท หรือ ทางไปรษณีย์

โดยเจ้าของข้อมูลต้องมีหนังสือปฏิเสธจากสถาบันการเงิน ที่ระบุสาเหตุการปฏิเสธการให้สินเชื่อ เนื่องจากเป็นผลจากการตรวจสอบข้อมูลเครดิตจากบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติและนำมายื่นขอตรวจสอบข้อมูลเครดิตพร้อมหลักฐานอื่นๆ ทั้งนี้บริษัทจะไม่คิดค่าธรรมเนียมในการตรวจสอบข้อมูลเครดิต หากยื่นคำขอภายใน 30 วัน นับจากวันที่ในหนังสือแจ้งปฏิเสธดังกล่าว

การขอตรวจสอบกรณีถูกปฏิเสธสินเชื่อ ณ ที่ทำการบริษัทฯ

สามารถยื่นแบบคำขอ พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องด้วยตนเอง หรือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นกระทำการแทนได้ โดยมีขั้นตอน ดังนี้

1. ยื่นแบบคำขอตรวจสอบข้อมูลเครดิต (ประเภทบุคคลธรรมดา หรือ ประเภทนิติบุคคล) พร้อมหลักฐานประกอบดังนี้

กรณีบุคคลธรรมดา

  • บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง หรือบัตรประจำตัวบุคคลต่างด้าวตัวจริง หรือหนังสือเดินทางฉบับตัวจริงมาแสดง**ในกรณีที่มีการมอบอำนาจ ให้นำ**
    • หนังสือมอบอำนาจบุคคลธรรมดา
    • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจ พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง พร้อมทั้งบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงมาแสดง
    • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง พร้อมทั้งบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงมาแสดง

กรณีนิติบุคคล

  • สำเนาหนังสือรับรองของนิติบุคคล ที่รับรองไว้ไม่เกิน 3 เดือน พร้อมรับรองสำเนาถูกต้องโดยกรรมการผู้มีอำนาจพร้อมประทับตราบริษัท (ถ้ามี)
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง **ในกรณีที่มีการมอบอำนาจ ให้นำ**
    • หนังสือมอบอำนาจนิติบุคคล
    • สำเนาหนังสือรับรองของนิติบุคคล ที่รับรองไว้ไม่เกิน 3 เดือน พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้องโดย กรรมการผู้มีอำนาจ พร้อมประทับตราสำคัญบริษัท (ถ้ามี)
    • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจลงนามและลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง พร้อมทั้งนำบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงมาแสดง
    • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ และลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง พร้อมทั้งนำบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงมาแสดง
2. ยื่นเอกสารในข้อ 1 พร้อมหนังสือปฏิเสธจากสถาบันการเงินที่ระบุสาเหตุการปฏิเสธการให้สินเชื่อ เนื่องจากเป็นผลจากการตรวจสอบข้อมูลเครดิตจากบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (ชำระค่าธรรมเนียมในการตรวจสอบข้อมูลเครดิตต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัท กรณียื่นคำขอเกินกว่า 30 วันจากนับจากวันที่ในหนังสือแจ้งปฏิเสธ)
3. เจ้าของข้อมูลสามารถขอรับรายงานภายในวันยื่นคำขอ หรือยื่นความจำนงให้จัดส่งรายงานทางไปรษณีย์ลงทะเบียน (กรณีให้จัดส่งทางไปรษณีย์ ฉบับละ 20 บาท)

การขอตรวจสอบกรณีถูกปฏิเสธสินเชื่อผ่านทางไปรษณีย์

1. เจ้าของข้อมูลกรอกแบบคำขอตรวจสอบข้อมูลเครดิต ( ประเภทบุคคลธรรมดา หรือ นิติบุคคล ) โดยแนบหลักฐาน ดังนี้

กรณีบุคคลธรรมดา

  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรที่หน่วยงานราชการออกให้ พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง กรณีเป็นชาวต่างชาติให้ใช้สำเนาบัตรประจำตัวบุคคลต่างด้าว หรือสำเนาหนังสือเดินทาง พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง

กรณีนิติบุคคล

  • สำเนาหนังสือรับรองของนิติบุคคล ที่รับรองไว้ไม่เกิน 3 เดือน พร้อมรับรองสำเนาถูกต้องโดยกรรมการผู้มีอำนาจ พร้อมประทับตราบริษัท (ถ้ามี)
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง

2. หนังสือปฏิเสธจากสถาบันการเงิน ที่ระบุสาเหตุการปฏิเสธการให้สินเชื่อ เนื่องจากเป็นผลจากการตรวจสอบข้อมูลเครดิตจากบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ โดยหากมีอายุไม่เกิน 30 วัน นับจากวันที่ในหนังสือแจ้งปฏิเสธดังกล่าว จะได้รับการยกเว้นไม่เสียค่าธรรมเนียมในการตรวจสอบข้อมูลเครดิต

3. จัดส่งเอกสารหลักฐานตามข้อ 1 และ 2 ทางไปรษณีย์ลงทะเบียน จ่าหน้าถึง

บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ส่วนบริการเจ้าของข้อมูล เลขที่ 33/4 อาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ส แกรนด์ พระรามเก้า ชั้น 2  ถนนพระราม 9 ห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310

4. บริษัท จัดส่งรายงานข้อมูลเครดิตให้ตามที่อยู่ในบัตรประจำตัวประชาชน หรือตามที่อยู่ที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งปฏิเสธการให้สินเชื่อ หรือที่อยู่ที่ทางบริษัทจะสามารถตรวจสอบได้

 

หมายเหตุ

  • โปรดระบุชื่อผู้ติดต่อ พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ลงในแบบคำขอ เพื่อใช้ในกรณีที่บริษัท ต้องการสอบถามเพิ่มเติม
  • กรณีที่เอกสารและหลักฐานไม่ถูกต้อง หรือไม่ครบถ้วน บริษัท ขอสงวนสิทธิ์ในการจัดส่งรายงานข้อมูลเครดิต
  • กรณีที่ท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการยื่นคำขอตรวจสอบข้อมูลเครดิต โปรดติดต่อสอบถามได้ที่ ส่วนบริหารเจ้าของข้อมูล

คอลัมน์เครดิตบูโรคิดเป็นเห็นต่าง : สร้างเครดิตทางการเงินให้ดี เพิ่มโอกาสการขอสินเชื่อ : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ประจำวันที่ 28 มีนาคม 2568

สร้างเครดิตทางการเงินให้ดี เพิ่มโอกาสการขอสินเชื่อ

คำกล่าวที่ว่า มีเครดิตดีทำอะไรก็ง่าย คงไม่เกินจริง โดยเฉพาะเครดิตทางการเงิน ที่ยิ่งมีเครดิตดีมากเท่าไหร่ สุขภาพการเงินก็ดี และโอกาสในการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือการขอสินเชื่อเป็นไปได้ง่ายมากยิ่งขึ้น มาดูกันว่าถ้าอยากสร้างเครดิตให้ดีต้องทำอย่างไรกันบ้าง

  1. ชำระหนี้ให้ตรงเวลา
  • การสร้างเครดิตทางการเงินที่จะช่วยให้สถาบันการเงินเห็นภาพพฤติกรรมการใช้จ่ายได้อย่างชัดเจนคือ ประวัติการชำระหนี้ ยิ่งใครที่มีบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด จะทำให้เห็นวินัยทางการเงินในส่วนตรงนี้มากขึ้น โอกาสในการขอสินเชื่อผ่านก็จะง่ายตามเงื่อนไขที่สถาบันการเงินกำหนดไว้
  1. ไม่มีภาระหนี้เยอะ
  • หากใครที่มีหนี้บัตรเครดิต หรือมีสินเชื่อหลายตัว โอกาสที่จะขอสินเชื่อผ่านได้ง่าย ๆ คือต้องสะสางหนี้ให้หมด หรือเหลือให้น้อยที่สุด เพื่อให้สถาบันการเงินพิจารณาในการให้สินเชื่อ
  1. มีเงินเข้า-ออกบัญชีอย่างสม่ำเสมอ
  • เพื่อเป็นหลักฐานที่สถาบันการเงินสามารถตรวจสอบได้ ว่าในแต่ละเดือนมีรายรับและรายจ่ายเท่าไหร่ เป็นการสร้างเครดิตทางการเงินเบื้องต้นไปในตัว
  1. เปิดบัญชีออมเงินไว้โดยเฉพาะ
  • การเปิดบัญชีเงินฝากแยกไว้อีกส่วนซึ่งบัญชีนี้อาจจะเป็นเงินจำนวนหนึ่งที่มากกว่าฐานเงินเดือน จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในเรื่องของเครดิตทางการเงินได้
  1. ลงทุน DCA อย่างต่อเนื่อง
  • DCA หรือ Dollar-cost averaging เป็นการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยไม่ว่าจะกองทุน หรือหุ้นในจำนวนเงินที่เท่า ๆ กันแต่ละเดือน ซึ่งการลงทุนรูปแบบนี้จะช่วยให้เห็นถึงวินัยทางการเงินเพราะเรามีการลงทุนอย่างเป็นประจำสม่ำเสมอ

ถ้าอยากมีเครดิตที่ดีหรือเตรียมความพร้อมก่อนขอสินเชื่อ ต้องหมั่นตรวจข้อมูลเครดิตของตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นประโยชน์แก่ตัวเองในการสร้างเครดิตทางการเงิน โดยสามารถเลือกช่องทางการตรวจเพิ่มเติมได้ที่ www.ncb.co.th

คอลัมน์เครดิตบูโรคิดเป็นเห็นต่าง : ความน่าเชื่อถือข้อมูลเครดิต : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ประจำวันที่ 14 มีนาคม 2568

ข้อมูลเครดิตมีผลต่อความน่าเชื่อถือทางการเงินของเราแค่ไหน

ทำไมถึงต้องรักษาเครดิตการเงินไว้ให้ดีอย่างสม่ำเสมอ ข้อมูลเครดิตถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเช็กสุขภาพการเงินของเรา และแสดงให้เห็นถึงประวัติการชำระหนี้สินต่อสถาบันการเงินต่าง ๆ ยิ่งไปกว่านั้นทุกวันนี้ข้อมูลเครดิตกลายมาเป็นส่วนสำคัญในการทำธุรกรรมทางการเงินมากมาย

ความสำคัญของข้อมูลเครดิตต่าง ๆ จึงกลายมาเป็น 5 เหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องรักษาเครดิตของตนเองให้ดี เพราะหากปล่อยปะละเลยนาน ๆ ก็อาจจะสายเกินแก้

  1. ข้อมูลเครดิตสำคัญต่อความเป็นอยู่ในชีวิต ข้อมูลเครดิตที่ดีอาจส่งผลไปถึงไลฟ์สไตล์และความเป็นอยู่ในชีวิต อาทิ การเลือกที่พักอาศัย หรือแม้แต่การทำธุรกรรมทางการเงิน เพราะข้อมูลเครดิตเป็นหนึ่งในเงื่อนไขหลักเกณฑ์ที่สถาบันการเงินจะพิจารณา รวมกับปัจจัยอื่น ๆ เช่น ภาระหนี้ รายได้ ที่สถาบันการเงินแต่ละแห่งกำหนดไว้ ยิ่งถ้าเรามีประวัติการเงินและเครดิตการเงินที่ดี โอกาสที่จะยื่นขอสินเชื่ออนุมัติผ่านก็มีความเป็นไปได้สูง
  2. เพิ่มโอกาสในการเจรจาต่อรองวงเงินที่สูงขึ้น หลายคนอาจไม่รู้ว่าการมีเครดิตดีมักจะตามมาด้วยโอกาสที่จะต่อรองกับสถาบันการเงินที่มากขึ้น เมื่อสถาบันการเงินประเมินแล้วว่าเรามีความสามารถในการผ่อนชำระไหว เราก็จะได้รับการเจรจาวงเงินที่ยื่นขอไปได้ แต่ทั้งนี้สถาบันการเงินดูปัจจัยอื่น ๆ อีกด้วย เช่น รายได้ ประวัติการชำระหนี้ หรือแม้แต่เงื่อนไขข้อกำหนดของสถาบันการเงินที่กำหนดไว้แต่ละแห่ง เป็นต้น
  3. ข้อมูลเครดิตอาจมีผลต่อหน้าที่การงานในอนาคต ในบางสายงานใช้ข้อมูลเครดิตในการประเมินผู้สมัครงานด้วย โดยเฉพาะตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการเงิน เพื่อต้องการตรวจสอบความน่าเชื่อถือทางการเงิน และเช็กพฤติกรรมความรับผิดชอบต่อภาระการเงินที่มี
  4. การทำธุรกิจก็จำเป็นต้องมีเครดิตการเงินดี ไม่ใช่แค่บุคคลธรรมดาหรือคนทั่วไป แต่นิติบุคคล เจ้าของธุรกิจก็ต้องมีเครดิตดีก่อนการประกอบธุรกิจเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจในเวลาที่คู่ค้าต้องการจะเข้ามาทำธุรกิจร่วมกัน เป็นพาร์ตเนอร์ หุ้นส่วน มั่นใจได้ว่าธุรกิจจะไม่เสี่ยงต่อการล้มละลาย จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องมีเครดิตการเงินที่ดี
  5. เครดิตการเงินดีช่วยกำหนดอนาคตได้ง่ายยิ่งขึ้น ข้อมูลเครดิตเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถวางแผนหรือคาดการณ์การเงินในอนาคต เพราะหากเรามีการจัดสรรรายจ่ายที่ดี ชำระหนี้ตรงต่อเวลา เราจะสามารถกำหนดเป้าหมายการเงินของเราให้เป็นไปตามแบบแผนที่วางไว้ได้

แน่นอนว่าการมีเครดิตที่ดีถือเป็นประโยชน์ต่อเราอย่างมาก ซึ่งหากใครที่ต้องการจะรู้ว่าข้อมูลเครดิต และประวัติการเงินในตอนนี้ของเราเป็นอย่างไร ก็สามารถตรวจเครดิตบูโรเพื่อเช็กข้อมูลเครดิตของตนเองได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่เครดิตบูโรให้บริการ โดยอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ncb.co.th 

#เครดิตดีมีโอกาส

ตรวจข้อมูลเครดิต ฟรี! ในงาน “LAฬ Square” มหกรรมกฎหมาย เครือข่ายนิติจุฬาฯ สู่สังคม : วันที่ 15 มีนาคม 2568 เวลา 16.00 – 20.00 น. บริเวณ Siam Square Walking Street

ตรวจข้อมูลเครดิตฟรี! ในงาน “LAฬ Square” มหกรรมกฎหมาย เครือข่ายนิติจุฬาฯ สู่สังคม
วันที่ 15 มีนาคม 2568 เวลา 16.00 – 20.00 น. บริเวณ Siam Square Walking Street

ให้บริการตู้ตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเอง (ตู้ตีออส) และแท็บเล็ต (Tablet) รอรับรายงานทางอีเมลได้ทันที *เฉพาะตรวจข้อมูลเครดิตของตนเองเท่านั้น
เตรียมให้พร้อมก่อนใช้บริการตรวจข้อมูลเครดิต
– บัตรประชาชนของตนเอง
– เบอร์โทรศัพท์มือถือของตนเอง (เพื่อรับรหัส OTP)
– อีเมลของตนเอง (สำหรับจัดส่งรายงานรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ NCB e-Credit Report)

ข่าวเครดิตบูโร 001/2568 : “สหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจวบคีรีขันธ์” สหกรณ์ออมทรัพย์ครูแห่งแรกของภาคตะวันตก ร่วมมือ “เครดิตบูโร” ในโครงการช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์กลุ่มเปราะบาง

ข่าวเครดิตบูโร 001/2568

“สหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจวบคีรีขันธ์” สหกรณ์ออมทรัพย์ครูแห่งแรกของภาคตะวันตก ร่วมมือ “เครดิตบูโร” ในโครงการช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์กลุ่มเปราะบาง

 5 มีนาคม 2568 : สหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจวบคีรีขันธ์ จำกัด (สหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจวบคีรีขันธ์) และบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์กลุ่มเปราะบาง” นับเป็นสหกรณ์ออมทรัพย์ครูในภาคตะวันตกแห่งแรกที่เครดิตบูโรได้มีบทบาทสำคัญที่ให้การสนับสนุนการบริหารจัดการหนี้สินของสมาชิกสหกรณ์ฯ โดยเครดิตบูโรจะช่วยจำกัดการขอสินเชื่อ พร้อมทั้งส่งเสริมการปรับพฤติกรรมทางการเงินของสมาชิกให้สามารถจัดการหนี้สินของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงการดังกล่าวยังมุ่งเน้นการเสริมสร้างความรู้วินัยด้านการเงินให้กับข้าราชการครู และให้คำปรึกษาเพื่อช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ฯ ในการแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างยั่งยืน โดยการร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเสริมแกร่งความรู้ทางการเงินให้แก่ข้าราชการครู ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างยั่งยืน พร้อมร่วมให้คำปรึกษาและแนะนำโครงการดังกล่าว

นายพัฒชัย วิเศษสมบัติ ประธานคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า “ตามที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดให้มีโครงการช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์กลุ่มเปราะบาง  ซึ่งเป็นกลุ่มสมาชิกที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเดิมที่ทางสหกรณ์ฯ ได้จัดไว้ให้แล้วนั้น เนื่องจากติดเงื่อนไขเงินเหลือหัก ณ ที่จ่ายไม่ถึง 30% และมีเงินงวดเหลือน้อย    การช่วยเหลือสมาชิกกลุ่มเปราะบางกลุ่มนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้มีโอกาสถ่ายโอนหนี้จากสถาบันการเงินอื่น ๆ ที่มีดอกเบี้ยเงินกู้สูงมารวมไว้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจวบคีรีขันธ์ ที่คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้รวมไว้ให้สมาชิกเพียงร้อยละ 4.50 บาทต่อปี อย่างไรก็ตาม สมาชิกกลุ่มนี้ต้องรักษาวินัยทางการเงินอย่างจริงจัง โดยไม่ไปก่อหนี้ผูกพันกับสถาบันการเงินอื่นอีก

ในการนี้ เครดิตบูโรมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนข้อมูลเครดิตของสมาชิกกลุ่มดังกล่าวให้กับสถาบันการเงินอื่นๆ ได้พิจารณาการปล่อยสินเชื่อให้กับสมาชิกกลุ่มนี้ตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงไว้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจวบคีรีขันธ์ การร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยให้สมาชิกกลุ่มเปราะบางของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจวบคีรีขันธ์ได้มีโอกาสบริหารจัดการหนี้ของตนเองให้อยู่ในวงเงินที่เหมาะสมตามสถานการณ์ที่สมาชิกกลุ่มนี้ได้ผ่านความยากลำบากสู่การมีสถานะทางการเงินที่มีความคล่องตัวยิ่งขึ้นสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง สามารถพึ่งพาตนเองได้ในอนาคตต่อไป” 

นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ เครดิตบูโร เปิดเผยว่า “ความร่วมมือโครงการช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์กลุ่มเปราะบาง   มีเป้าหมายในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้สินของสมาชิกสหกรณ์ฯ และส่งเสริมการปรับพฤติกรรมทางการเงินอย่างยั่งยืน โดยเครดิตบูโรให้การสนับสนุนสมาชิกของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจวบคีรีขันธ์ ในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน เพื่อส่งเสริมกำกับให้สมาชิกของสหกรณ์ฯ ปรับพฤติกรรมในการจำกัดหนี้เพิ่ม และจำกัดการขอสินเชื่อด้วยตนเอง เพื่อให้การบริหารจัดการภาระหนี้สินของตนเองมีความเหมาะสมเป็นไปตามศักยภาพที่สามารถชำระหนี้ได้  การสนับสนุนดังกล่าวจะช่วยให้สมาชิกมีความรู้ความเข้าใจในการจัดการหนี้สินได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน”

ทั้งนี้ โครงการช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์กลุ่มเปราะบางนั้น เครดิตบูโรจะสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการ เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล โดยจัดทำบริการเพื่อให้สมาชิกสหกรณ์ฯ ผู้ประสงค์เข้าโครงการรวมภาระหนี้สินจากสถาบันการเงินอื่น ๆ ทั้งหมดของสมาชิกที่มีปัญหาวิกฤติและแสดงเจตนารมณ์ไม่ก่อหนี้เพิ่มโดยสมัครใจไว้ในรายงานข้อมูลเครดิตของตนเองก่อนได้รับเงินกู้ช่วยเหลือในการรวมหนี้สิน เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการกำกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการก่อหนี้สินในช่วงเข้ารับการแก้ไขปัญหาโดยผู้ให้สินเชื่อที่ร่วมโครงการปัจจุบัน ช่วยให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา      หลุดพ้นวงจรหนี้ มีสุขภาพทางการเงินและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน หากสหกรณ์ออมทรัพย์อื่น ๆ ที่สนใจโครงการดังกล่าว  สามารถขอคำแนะนำการแก้หนี้อย่างยั่งยืน ได้ที่อีเมล consumer@ncb.co.th  

(ในภาพ) นายพัฒชัย วิเศษสมบัติ (ซ้าย) ประธานคณะกรรมการ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจวบคีรีขันธ์ จำกัด นายวงศ์วริศ ดุลยนิติโกศล  (ขวา) ที่ปรึกษาผู้บริหาร บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกร่วมกันในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์กลุ่มเปราะบาง ระหว่างสหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจวบคีรีขันธ์ จำกัด และบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ณ ห้องประชุมชั้น 3 อาคารสำนักงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเร็ว ๆ นี้

(ในภาพ) นายพัฒชัย วิเศษสมบัติ (กลาง) ประธานคณะกรรมการ  นายโกวิท เกตุงาม (ที่สองจากซ้าย) รองประธานกรรมการคนที่ 1 นางวีณา พัดจาด ผู้จัดการ (ซ้ายสุด) สหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจวบคีรีขันธ์ จำกัด และนายวงศ์วริศ ดุลยนิติโกศล (ที่สองจากขวา) ที่ปรึกษาผู้บริหาร  นางวีระนงค์ ฉ่ำทรัพย์ (ขวาสุด) ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส  บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด  ร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกร่วมกันในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์กลุ่มเปราะบาง ระหว่างสหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจวบคีรีขันธ์ จำกัด และบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ณ ห้องประชุมชั้น 3 อาคารสำนักงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเร็ว ๆ นี้

 

………………………..

เกี่ยวกับบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด

บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน (Financial Infrastructure) และปัจจัยของเสถียรภาพระบบสถาบันการเงิน โดยทำหน้าที่จัดเก็บ รวบรวมและประมวลผลข้อมูลสินเชื่อของลูกค้าสถาบันการเงิน ตามที่สถาบันการเงินหรือบริษัทที่เป็นสมาชิกจัดส่งให้เท่านั้น และเครดิตบูโรไม่มีความเกี่ยวข้องหรือมีสิทธิอนุมัติหรือร่วมตัดสินใจให้สินเชื่อกับใคร ทั้งนี้ บริษัทได้พัฒนาระบบการประมวลผล รายงานผลข้อมูลเครดิต และปรับปรุงคุณภาพของข้อมูลให้มีความถูกต้อง ครบถ้วน รวดเร็วและทันสมัย โดยเพิ่มศักยภาพทางด้านการรักษาความปลอดภัยสารสนเทศอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทได้ยึดถือหลักการในการปกป้องและรักษาความลับของข้อมูลเป็นอย่างยิ่ง ตลอดจนคำนึงถึงการดูแลและคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.ncb.co.th

 

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) ฝ่ายธุรกิจสัมพันธ์และภาพลักษณ์องค์กร E-mail: ilovebureau@ncb.co.th

คอลัมน์เครดิตบูโรคิดเป็นเห็นต่าง : เครดิตดีสร้างได้ ทำอะไรก็ง่าย มีชัยไปกว่าครึ่ง : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันศุกร์ 28 กุมภาพันธ์ 2568

เครดิตดีสร้างได้ ทำอะไรก็ง่าย มีชัยไปกว่าครึ่ง

ในการจะพิจารณาอนุมัติเงินกู้หรือขอสินเชื่ออะไรก็ตาม สถาบันการเงินจะมีปัจจัยเงื่อนไขตามหลักเกณฑ์ของแต่ละสถาบันที่เหมือนกัน ส่วนหนึ่งก็คือ พฤติกรรมทางการเงิน ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงเครดิตของผู้ที่ขอสินเชื่อ

ดังนั้นสิ่งสำคัญที่ต้องสร้างคือ “เครดิต” ถ้าอยากรู้ว่าวิธีการสร้างเครดิตทางการเงินที่ดีสามารถอย่างไร ตามมาดูกัน

  1. ชำระหนี้ให้ตรงตามเวลาที่กำหนด

ควรชำระหนี้ให้ตรงตามเวลา เพื่อเก็บประวัติในการชำระเงิน แสดงความมีวินัยทางการเงินอย่างสม่ำเสมอ  และทำให้มีโอกาสที่จะได้ลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้ผู้กู้ที่มีประวัติผ่อนชำระดี

  1. ไม่ก่อหนี้ที่ไม่เป็นประโยชน์เพิ่ม

หนี้ที่ไม่เป็นประโยชน์ คือหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เช่น ชอปปิ้ง ของลดราคา เป็นต้น

  1. ทำสรุปรายการหนี้ค้างชำระ

พยายามชำระหนี้ค้างชำระคงเหลือให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อรักษาเครดิตที่ดี หรือติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่อเจรจาประนอมหนี้

  1. หมั่นตรวจสอบเครดิตทางการเงินอย่างสม่ำเสมอ

เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และประวัติการเงินที่ดี ง่ายต่อการขอสินเชื่อ

เครดิตบูโรไม่มีความเกี่ยวข้องหรือสิทธิอนุมัติ หรือร่วมตัดสินใจให้สินเชื่อกับใคร บุคคลใดกล่าวอ้างกับท่าน แจ้งเรื่องได้ที่ consumer@ncb.co.th

#เครดิตดีมีโอกาส

เรื่องน่าอ่าน