การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้อง….
ในยามที่ดอกเบี้ยเงินฝากเตี้ยติ ดดิน ขณะเศรษฐกิจมีการเติบโตได้ ตามศักยภาพ 1-3% ตามการพยากรณ์ และยังมีประเด็นเรื่องของหลุ มรายได้ 2.6 ล้านล้านบาทในช่วงปี 2563-2565 ต่อด้วยการเปิดเมืองเพื่อให้ เศรษฐกิจกลับมา การท่องเที่ยวกลับมาจากจำนวนนั กท่องเที่ยว 40 ล้านคนมาเหลือเพียง 2-8 ล้านคนในช่วงแรก สิ่งที่พอจะให้คนที่มีเงิ นออมมาลงทุนได้ก็อาจเป็น หุ้น กองทุน ทองคำ ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ งานศิลปะ สิ่งของมีค่าหายาก แต่ปัจจุบันกระแสของสินทรัพย์ ดิจิทัลมันมาแรงมาก แรงจนคนที่คิดจะตั้งคำถามเพื่ อให้แน่ใจเรื่องการจะเข้าไปลงทุ นนั้น ผู้ลงทุนควรจะต้องรู้หรือไม่ว่ ามันคือการลงทุนอะไรกันแน่ คนที่ออกมาตั้งคำถามผู้เขียนก็ เชื่อว่าจะโดนกระแสบ่น แซะ หนักเข้าก็คือก่นด่าเอาได้ ข้อความที่ใช้กันมาเป็ นคาถาในการเข้าลงทุนในสิ่งใด ๆ ก็ตามคือ “การลงทุน มีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่ อนการตัดสินใจ” ข้อความดังกล่าวผู้เขียน ขอยกมาตั้งเป็นประเด็นให้คิดกั น เพราะผู้เขียนได้สนทนากับผู้ คนที่อาจคิดต่างและก็เป็นผู้ คนคุณภาพกลุ่มหนึ่งที่มีความห่ วงใยในกระแสที่กำลั งมาแรงในเวลานี้ เรียกได้ว่า กลุ่มพายเรือขวางคลองยามน้ำเชี่ ยวกันเลยทีเดียว ข้อความนั้นมีอยู่ว่า
1. บทสนทนาเริ่มต้นว่า… มีคนรู้จักท่านหนึ่ง มาถามว่า “ลงทุน” คริปโต ดีไหม ลูก ๆ ทั้ง 3 คนมาคะยั้นคะยอ บอกว่า ได้ ผลตอบแทน 12% ขึ้นไป เมื่อฟังแล้วก็คุ้น ๆ ว่า ตอนสมัยแชร์ชม้อยดัง ๆ ผู้คนลงทุนกันมากมาย คำพูดข้อความก็มีความคล้าย ๆ กันอยู่ประมาณหนึ่ง
มันก็เลยมีคำถามว่า แล้วถ้าการลงทุนมันจะได้ 12% ไปเรื่อย ๆ ให้กับคนที่จะเข้ ามาในวงของการลงทุนมันหมายถึ งอะไร มันน่าจะเหมือนสมัยก่อนหรือไม่ ตอนแชร์ชม้อยดัง คือมันให้ผลตอบแทนดีกว่านี้อี กคือมากกว่า 12% แต่มีข้อแม้เดียวคือ ต้องมีคนลงทุนทั้งหน้าใหม่ และหน้าเก่า เติมเงินไปเรื่อย ๆ เพื่อให้คนที่ถือสินทรัพย์ การลงทุนอยู่ได้รั บผลตอบแทนตามที่ว่าครับ สมัยก่อนเวลานั้น แม้คนที่ “ลงทุน” กับแม่ชม้อย ก็ยังอดคิด อดถามไม่ได้ว่า แล้วแม่ชม้อยเอาเงินไปทำอะไร มันเป็นธุรกิจอะไรมันถึงจะมี ผลตอบแทนงอกงามมาพอให้ ผลตอบแทนระดับที่บอกกับคนที่ สนใจเข้ามาลงทุนขนาดนั้น เวลานี้ ตอนนี้ มันมีบรรยากาศคล้ายกันไหม เพียงแต่ที่ต่างคือ
(1) เทคโนโลยี มันทำให้วงมันใหญ่กว่า กว้างกว่า เข้าถึงในชุมชนเล็ก หรือเข้าถึงในระดับประเทศเดี ยวได้
(2) ผู้คนจำนวนหนึ่ง หางานยาก ออกจากงานมาใหม่ ๆ อยากรวยเร็ว และมีเวลาว่างประมาณหนึ่ง
(3) เงินท่วมโลก เพราะผลจากมาตราการผ่อนคลายเชิ งปริมาณ (QE) ทำกันหลายประเทศ เงินมันก็ไม่รู้จะไปไหน วนไปเวียนมา
ถ้าเราลองคิดอย่างช้า ๆ ใจเย็น ๆ ใช้สติตรองดูมันจะมีคำถามว่า การจะรักษาระดับผลตอบแทน (maintain) ให้คนส่วนใหญ่ที่ “เล่นหรือลงทุน” ถือสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ผลตอบแทน สูงตามที่แต่ละคนคาดหวัง มันน่าจะต้องมีเงินเติมเข้ าไปในการเล่นหรือการลงทุนดังกล่ าวเรื่อย ๆ จนถึงวันหนึ่ง วันที่มันมีมูลค่ามากกว่า ทุกอย่างในโลกรวมกัน แล้วใครต่อใครก็หยุดไม่ได้ ต้องเติมไปเรื่อย ๆใช่หรือไม่ แล้วเราก็คิดดูต่อว่า มันจะเป็นจริงได้หรือไม่…
2. ถ้านิยาม “ลงทุน” มันมีแค่ว่า เอาเงินไปลง มีได้มีเสีย มีทางได้เงินเพิ่มแบบสบาย ไม่รู้ที่มาที่ไป อธิบายไม่ชัดแบบนั้น มันอาจไม่ต้องไปทำเทคโนโลยี อะไรซับซ้อนเลย เราอนุญาตให้เปิดบ่อนพนัน ตรงไปตรงมาจะเป็นทางเลือกเปรี ยบเทียบได้หรือไม่ นิยามของคำว่า “การลงทุน” มันน่าจะ… คือการจัดสรรทรัพยากร เพื่อส่งต่อเงินทุนไปยังผู้ ประกอบการ หรือผู้ผลิตที่จะสร้าง productivity สูงสุด มันน่าจะเป็นการจัดสรรทรัพยากร (resource allocation) ว่าใครควรจะได้ทุน มีการจ้างคน ได้ปัจจัยการผลิตไป เพื่อให้สร้าง productivity สูงสุดในระบบเศรษฐกิจไม่ใช่หรื อ
3. ผู้เขียนขอแสดงจุดยืนนะครับว่า ไม่ได้ห้ามว่าอย่าไปเล่น อย่าไปลงทุนคริปโต เดี๋ยวเสียเงินเสียทอง เดี๋ยวหมดตัว-หมดตังค์ ผู้เขียนขอ disclaimer ว่าไม่ได้บอกอย่างนั้นนะครับ
พื้นฐานการพนันโดยทั่วไป หลักการคือมันก็ต้องมีคนได้ มีคนเสีย ถ้าฐานมันกว้าง มันก็มีหน้าใหม่ ๆ (รวมหน้าเดิม ๆ ) หมุนเข้าออกศูนย์กลาง (บ่อน) มาเสี่ยงโชคตลอดใช่หรือไม่ ตามธรรมชาติ ถ้าใครก็ตามไปพูดบอกคนที่กำลั งเล่นการพนัน มือกำลังขึ้น ได้เงินตลอด พูดแบบนั้นเขาเรียกว่า “พูดขัดลาภ” แล้วมันก็จะต้องขัดอกขัดใจ อาจถึงขั้นทะเลาะกัน เพราะเข้าเพิ่งเห็นว่า ต้องตั้งสติให้ดีนะครับ การเปลี่ยนมือเจ้าของศูนย์ กลางสถานที่ มันคือการเปลี่ยนเจ้าของระบบ เปลี่ยนเจ้าของสถานที่ มันเป็นเรื่องของซื้ อของขายคนละตัวกับสิ่งที่ “เล่นหรือลงทุน” มันไม่ใช่เรื่องผลตอบแทนที่เพิ่ มจากสิ่งที่ “เล่นหรือลงทุน” และมันก็ต่างจากเรื่ องผลตอบแทนจากการเชียร์ให้มา “เล่นหรือลงทุน” เวลาอ่านเรื่องที่รับเข้ามาต้ องแยกตัวละครในเรื่องต้องเอาให้ ชัดว่าเป็น เจ้าของสถานที่หรือศูนย์ กลางได้กำไรจากการซื้อขายสถานที่ หรือคนเชียร์ได้รายได้หักค่ าใช้จ่ายจากการอำนวยความสะดวก หรือเป็นเรื่องคนที่ลงทุนหรื อเล่นในทรัพย์สิน ได้ผลตอบแทนจากมูลค่าที่มันเพิ่ มขึ้นจาก “คุณค่า” ของสินทรัพย์ตัวนั้น ต้องเอาให้ชัดว่า เรากำลังพูดและมุ่งไปที่แก่ นของเรื่องราวตรงไหนกันแน่
4. ลองหันกลับมาลองคิดในมุมของสั งคมสักนิด กิจกรรมใดก็ตามที่จะก่อให้เกิ ดความเจริญงอกงาม และถ้ามันดีจริง หากส่งเสริมสนับสนุนแล้ว สังคมมันน่าจะต้องเจริญวั ฒนาถาวรใช่หรือไม่ คิดต่อเลยไปอีกนิด หากผู้คนวัยทำงาน วัยที่เป็นกำลังของสังคม วัยที่เป็น Change agent ของสังคมในยุคสมัยใหม่ ไม่ทำมาหากิน ไม่ก่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิ จ วัน ๆ มุ่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทั ลอย่างเดียว ลองคิดต่อว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจ รายได้ประชาชาติ มันจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง ถ้าจะพูดให้ชัดแบบคุยกันมั นหยดในโลกออนไลน์ก็ต้องประชดว่ า ถ้ามันเป็นสิ่งที่ดี จะให้ชาวนามาเสียเวลาปลูกข้าว ได้เงินน้อย ๆ ทำไม ส่งเสริมทุกคนมานั่งซื้อขายสิ นทรัพย์ดิจิทัลกันเลยดีกว่ าไหม “หิวเมื่อไหร่ ก็แวะมากินคริปโตเป็นอาหารแทนดี ไหม แต่เราก็ยังชอบซาลาเปามากกว่ าใช่ไหมเวลาหิว” คือถ้าพูดกันแบบนี้ผู้เขียนก็ มองได้ว่า ทะเลาะกันแน่นอน เพราะมันแรงในมุมที่ไม่เห็นต่าง
5. มุมมองของฝั่งคนที่ไม่เห็นด้ วยก็มองว่า มันคือ ฝิ่นดิจิทัล มันก็คือ ฝิ่นแห่งยุคสมัย มันขายได้ดี ผู้คนนิยม คนค้าฝิ่นไม่มีใครไม่ร่ำรวย แน่นอนว่าโดยธรรมชาติทุกคนล้ วนอยากมีส่วนร่วม ไม่น่าจะมีใครสนใจหรอกว่า ตัวฝิ่นมันมีผลต่อสังคมอย่างไร ตอนเสพเข้าไปมันทำให้รวย มีความสนุกด้วย ได้ลุ้นเป็นวินาที อันนี้ผู้เขียนก็ขอ disclaimer อีกนะครับว่าอย่าเชื่อ จงอ่านอย่างมีสติ ลองเอาไปคิดก่อน แล้วหาข้อมูลเพิ่ม จนคิดได้เอง ด้วยตนเองว่า มันใช่หรือไม่ใช่ในสิ่งที่ปั ญญาของตัวเราเป็นตัวตอบนะครับ
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล (ให้มากพอด้วยสติ+ปัญญา) ก่อนการตัดสินใจ
หมายเหตุ ขอขอบคุณกัลยาณมิตรทั้งหลาย ที่สร้างบทสนทนาเรื่องนี้ จนทำให้ผู้เขียนต้องยกเอาแก่ นของสิ่งที่มีความห่ วงใยออกมาเผยแพร่ต่อ อย่างไรก็ตาม ข้อเขียนทั้งหมดคงเป็นสิ่ งจะทำให้เกิดความถูกใจกับคนเห็ นตรง-เห็นต่างไม่ได้ทุกท่ านนะครับ สนใจก็อ่านแต่อย่าเชื่อ ไม่สนใจ ไม่ชอบ ชิงชัง คิดว่าขัดลาภก็ผ่านไปเลยนะครับ
ขอบคุณมากครับสำหรับการติดตาม