เซ็น “ค้ำประกัน” โดยไม่เช็กเอกสารให้ดี ระวังใบแจ้งหนี้มาจอดอยู่ที่หน้าบ้านโดยไม่รู้ตัววววว
การค้ำประกัน แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญในการพิจารณาขอสินเชื่อของสถาบันการเงิน แต่เกิดเพลี่ยงพล้ำเซ็นโดยไม่เช็กรายละเอียดให้ดี ก็อาจทำให้ท่านเป็นผู้รับภาระหนี้แทนได้นั่นเองค่ะ
1. อ่านรายละเอียดสัญญาให้ชัดเจนว่าผู้กู้มีหลักทรัพย์เพียงพอต่อการชำระหนี้
2. เซ็นสัญญาโดยมีลายลักษณ์อักษรชัดเจน และห้ามเซ็นสัญญาที่บอกว่า “ให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้แทนได้”
3. ผู้ค้ำประกันจะต้องไม่รับผิดแทนลูกหนี้ หากไม่ได้ระบุในสัญญา
4. ข้อตกลงจะเป็นโมฆะ เมื่อหนี้ของผู้กู้สร้างภาระให้เกินสมควร
5. ผู้ค้ำประกันห้ามชำระดอกเบี้ย ค่าสินไหมทดแทน หากเจ้าหนี้ไม่แจ้งหนังสือให้ชำระแทนลูกหนี้ ภายใน 60 วัน นับตั้งแต่ลูกหนี้ผิดชำระหนี้
6. หากชำระหนี้แทนลูกหนี้ ผู้ค้ำประกันสามารถฟ้องลูกหนี้เรียกค่าเสียหายตามวงเงินที่ชำระหนี้แทน รวมถึงค่าเสียหายอื่น ๆ ได้
แหล่งอ้างอิง
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/890040