ตรวจเครดิตบูโร ฟรี! : งาน “Digital Government Summit 2019”
วันที่ 18-19 มกราคม 2562 เวลา 10.00 – 19.00 น. ลานอีเดน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ
ฟรี!!…บริการตรวจเครดิตบูโร แต่ขอรับเป็นเงินบริจาคแทน พร้อมเปิดคลินิกเครดิตบูโรให้คำปรึกษา ::
ตรวจเครดิตบูโร ฟรี! : งาน “Digital Government Summit 2019”
วันที่ 18-19 มกราคม 2562 เวลา 10.00 – 19.00 น. ลานอีเดน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ
ฟรี!!…บริการตรวจเครดิตบูโร แต่ขอรับเป็นเงินบริจาคแทน พร้อมเปิดคลินิกเครดิตบูโรให้คำปรึกษา ::
คอลัมน์ เศรษฐกิจคิดง่ายๆ
ในโลกของการยื่นขอสินเชื่อ
นสพ.โพสต์ทูเดย์ : วันจันทร์ที่14 มกราคม 2562
ในโลกของการยื่นขอสินเชื่อ หรือภาษา ชาวบ้านคือการยื่นขอกู้กับการพิจารณาคำขอสินเชื่อหรือที่ชาวแบงก์เรียกว่า การพิจารณาสินเชื่อ (ภาษาชาวบ้านการวิเคราะห์เงินกู้) ในบ้านเรานั้นสามารถแบ่งออกได้เป็นช่วงง่ายๆ ตามการพัฒนาดังนี้
1.ช่วงก่อนปี2540 ลักษณะ “เอาหลักประกันมา เอาเงินกู้ไป” ภาษาอังกฤษ No land No loan ผู้จัดการสาขาจะมีอำนาจมาก คนเข้าถึงสินเชื่อต้องมีทั้งสายสัมพันธ์มีคนแนะนำมีโครงการที่ดีและต้องมีหลักประกันเป็นที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง เครื่องจักรและอุปกรณ์ นอกจากนี้คนกู้จะต้องค้ำประกันเป็นการส่วนตัว การ เซ็นสัญญาต้องทำต่อหน้าเจ้าหน้าที่ของธนาคารหรือสถาบันการเงิน
2.ช่วงหลังปี2540 เมื่อเกิดวิกฤต การณ์ทางการเงินใหญ่จนกระทั่งสถาบันการเงินล่มสลายครั้งใหญ่และร้ายแรงเป็นที่สุดนั้น สถาบันการเงินได้มีการปฏิรูปครั้งใหญ่มาก ยกเครื่องในเรื่อง การกำกับดูแล การบริหารความเสี่ยง มีเรื่องธรรมาภิบาลในการจัดการ มีโครง สร้างพื้นฐาน อันได้แก่ ระบบกฎหมายใหม่ ระบบบัญชีใหม่ และต้องมีระบบข้อมูลเครดิตหรือเครดิตบูโร พระเอกของเครื่องมือในการวิเคราะห์สินเชื่อคือ คะแนนเครดิต หรือ Credit Scoring ถ้าเป็นสิ่งที่เครดิตบูโรทำก็เรียกว่าบูโรสกอร์ถ้าเป็นแบงก์ทำก็เรียกว่าแบงก์สกอร์ สิ่งนี้มีความหมายตามกฎหมายคือ ตัวชี้วัดความน่าจะเป็นในการชำระหนี้ ที่จัดทำโดยเพื่อที่จะเป็นค่าอะไรบางอย่างในการแยกแยะคนที่มาขอกู้ว่าเป็นคนเกรดไหน ดีเลวอย่างไรในการเป็นลูกหนี้ที่ดี/ไม่ดีความนัยของมันคือ
2.1 มันเป็นตัวชี้วัด จึงต้องมีลักษณะเป็นตัวเลขตัวอักษรที่บอกว่าใครดีกว่าใคร เช่น A AA A1 A2 หรือมีลักษณะเป็นตัวเลข 720 620 350 จากคะแนนเต็ม 900 1,000 เป็นต้น
2.2 มันสื่อความหมายความน่าจะเป็นในเรื่องการชำระหนี้ เพราะมันคือค่าแสดงว่าคนคนนี้มีโอกาสทางสถิติที่จะไม่จ่ายหนี้ยอมเป็นหนี้ค้างเกินกว่า90 วันกี่คนใน 100 คน ในอีก 12 หรือ 24 เดือนข้างหน้า
2.3มันต้องถูกทำขึ้นมาตามหลักวิชาการทางสถิติ ห้ามมั่ว มีการตรวจสอบ มีการทดสอบว่าปัจจัยที่เอามาเป็นตัวกำหนด เอามาเป็นสูตรในการพัฒนามันใช้ได้ มีความสัมพันธ์กับสิ่งที่ต้องการพยากรณ์
3.ยุคปัจจุบันในปีนี้ และที่กำลังจะมาถึงในอนาคตอันใกล้ การพิจารณาให้เงินกู้กับใคร เท่าไหร่ ดอกเบี้ยคิดเท่าไหร่ จะมาจากข้อมูลที่บ่งบอกตัวตน บ่งบอกพฤติกรรมการใช้ชีวิต พฤติกรรมการ ก่อหนี้ การชำระหนี้ เช่น เอาข้อมูลจากการใช้น้ำ ใช้ไฟ ใช้โทรศัพท์ ข้อมูลจากการโอนเงิน รับเงิน ข้อมูลในเฟซบุ๊ก ข้อมูลการจับจ่ายใช้สอยบนออนไลน์ข้อมูลการค้าขายบนออนไลน์ของตนเอง เป็นต้น เพราะเรากำลังจะเข้าสู่ยุค การให้กู้โดยอิงจากข้อมูลเป็นหลักสำคัญ
Information Based Lending คือ คำคำนั้น และคำคำนี้จะเข้ามามีอิทธิพลต่อการเข้าถึง เข้าไม่ถึงสินเชื่อ ในยุค ต่อไปอย่างแน่นอน
การไม่ต้องมาเจอหน้ากันก็ยื่นขอกู้ได้
การพิสูจน์และยืนยันตัวตนทำ ผ่านเครื่องมือและไม่ใช่คนในการตัดสินใจ
การยื่นเอกสารไม่ต้องใช้ตัวจริงเซ็นสด สำเนาเพียบอีกต่อไป แต่ใช้การถ่ายรูปส่งผ่านแอพพลิเคชั่น
การวิเคราะห์ใช้เทคนิคด้าน วิทยาศาสตร์ข้อมูลและสถิติ
การทำสัญญาไม่ต้องเซ็นสดอีก ต่อไป
อนุมัติหรือไม่จะบอกผลได้เร็วมากๆ
อนุมัติแล้วเงินจะโอนเข้าบัญชีคนขอกู้ได้ทันทีข้ามมิติเวลาและสถานที่ไปเลย
เราจะได้เห็นยุคที่ 3 ของการให้กู้ในปี 2562 อย่างแน่นอน ตอนนี้เหลือแต่เงื่อนไขใบอนุญาต และข้อกฎหมายเล็กน้อย สำคัญที่สุดคือตัวคนขอกู้ต้องเข้าใจนะว่า ข้อมูลที่ดีคือหลักประกันนิสัยใจคอของเราในท้ายที่สุด… ขอบคุณครับ
คอลัมน์ เศรษฐกิจคิดง่ายๆ
“คลื่นระลอกใหม่ในทะเลการเงิน”
นสพ.โพสต์ทูเดย์ : วันจันทร์ที่ 7 มกราคม 2562
ท่ามกลางกระแสข่าวปลดพนักงาน เลิกจ้าง ปิดสาขา การปรับตัวไปสู่บริการดิจิทัล แต่คนยังมีบทบาทสำคัญ ที่จะผลักดันองค์กรนั้นให้เติบโตต่อไปได้ โดยเฉพาะในยุคที่เรากำลังก้าวเข้าสู่ “สังคมสูงวัย” อย่างสมบูรณ์ปี 2564 แต่เรื่องที่ผู้เขียนอยากกล่าวถึงในบทความนี้จะได้แก่ คลื่นของการเปลี่ยนแปลงในระบบสถาบันการเงินไทย ในมุมของ ผู้เขียนมีดังนี้
1.จากการที่เรามีโครงสร้าง พื้นฐานการชำระเงินแบบดิจิทัล จะทำให้การต่อยอด รุกคืบของรูปแบบการให้บริการแบบทุกที่ ทุกเวลา หยิบมือถือขึ้นมาทำรายการทางการเงินได้ตลอดเวลา ดังนั้น ธนาคารคงจะกลายเป็นผู้ให้บริการบนแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนมากขึ้นในปีใหม่นี้บริการใหม่ แปลก และใช่จะมีมากขึ้น
2.การพิสูจน์และยืนยันตัวตนก่อนที่จะได้รับบริการจะเป็นดิจิทัลด้วยเทคนิคแบบใหม่ๆ การใช้ภาพใบหน้า ม่านตา ลายนิ้วมือ การเช็กสอบข้ามแบงก์ จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น การเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อพิสูจน์ว่า สมชาย คือสมชายคนนี้ ไม่ใช่สมศักดิ์คนนั้น หรือสมชายตัวปลอม พิสูจน์ด้วยข้อมูลสิ่งที่สมชายมี ด้วยสิ่งที่สมชายเป็น ด้วยสิ่งที่สมชายรู้ มาตอบคำถามของสมชายที่ว่า ผมคือสมชายครับและผมต้องการใช้บริการของท่านโดยไม่ต้องมาเจอหน้ากัน (non face to face) ที่แน่ๆ ตอนนี้กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ว่าด้วยการพิสูจน์และยืนยันตัวตนกำลังอยู่ในการพิจารณาของ สนช.
3.ผู้เล่นในการให้บริการทางการเงินประเภทสินเชื่อจะมีมากขึ้น Peer to Peer Lending คงจะมีใบอนุญาตออกมาแพลตฟอร์มตัวกลางจากจีน เกาหลี สิงคโปร์ คงเข้ามาในตลาดบ้านเราแน่นอน ลูกค้าทั้งมนุษย์เงินเดือน คนค้าขายตัวเล็ก หรือคนที่ไม่มีประวัติทางการเงินแต่มีแนวคิดคงจะมีทางออกในเรื่องแหล่งเงินมากขึ้น อีกพวกหนึ่งคือพวก Technology Company ที่เก่งๆ มีข้อมูลมาก คงจะเข้ามาในตลาดสินเชื่อนี้โดยเฉพาะพวก E-Commerce Platform
4.บทบาทธนาคารหรือสถาบันการเงินของรัฐจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น การลงไปในตลาดล่างที่เข้าไม่ถึงจะคึกคัก ดูจากโครงการบ้านล้านหลัง หรือปล่อยกู้ Taxi จะเห็นได้ว่าดูเหมือนเสี่ยงแต่ไม่เสี่ยงเพราะมีกรอบการกำกับดูแล เข้มข้นขึ้นกว่าในอดีตมาก
5.เครื่องมือทางสถิติที่จะนำมาใช้ในการช่วยตัดสินใจในการอนุมัติสินเชื่อจะอิงกับหลักเกณฑ์มากกว่าดุลพินิจเป็นรายๆ คะแนนเครดิต หรือ Credit Scoring จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นทั้ง Bank Internal Credit Score ที่พัฒนาจากข้อมูลลูกค้าของตัวแบงก์ที่จัดเก็บเอง Bureau Credit Score ที่พัฒนาจากข้อมูลในเครดิตบูโร Alternative Credit Score ที่พัฒนามาจากข้อมูลลักษณะอื่นๆ เช่น จากการใช้โทรศัพท์ พฤติกรรมในโลกออนไลน์ สื่อโซเชียล การจัดอันดับใน E-Commerce Platform ที่เกิดจากตัวเจ้าของข้อมูลเป็นคนสร้างขึ้นมา เครื่องมือพวกนี้จะเข้ามาทำให้กระบวนการสินเชื่อเร็วขึ้นมาก และการก้าวออกจากรูปแบบการให้สินเชื่ออิงหลักประกันจะกลายมาเป็นอิงข้อมูลหรือ Information Based Lending ที่ทางธนาคารกลางสนับสนุนนั่นเอง
6.สุดท้ายคือเรื่องของคน ยุคที่เปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัล เราจะเห็นการแข่งขันแย่งชิงคนไอที ดิจิทัลกันดุเดือด สิ่งที่เป็นความท้าทายมากคือไม่สามารถพัฒนาคนให้ทันต่อความท้าทายใหม่ เช่น การเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยีใหม่ บางองค์กรจึงต้องมีการรับคน (แย่งชิงคน) ที่เชี่ยวชาญในบางด้านที่ขาด เข้ามาจากภายนอก เมื่อทุกอย่างกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคของดิจิทัล ยุคของเทคโนโลยี และสถาบันการเงินต้องปรับตัวเองให้ทัน ทั้งปรับการให้บริการไปสู่ดิจิทัลมากขึ้น รวมถึงปรับในเรื่องของคนเข้ามาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคนไอที คนที่มีความเชี่ยวชาญด้านไอที เทคโนโลยีที่ล่าสุด
7.ผู้เขียนคิดว่า ผู้คนที่มีอายุเกิน 45 ปี และหยุดอ่านหนังสือ พูดกับเด็กๆ ในที่ทำงานแล้วไม่มีใครฟัง (แต่ตัวเองคิดว่าตนเองยังสำคัญอยู่) วันๆ ใช้แต่ประสบการณ์ ความเก๋าเอาตัวรอดในที่ทำงาน พวกได้ครับพี่ ดีครับนาย สบายครับผม เหมาะสมครับท่าน นำเสนอเก่ง หรือพวก NATO, No Action Talk Only หรือพวกนักรบ PowerPoint พวกที่ดีแต่สร้าง Template เก๋ไก๋มาหลอกตาเจ้านายไปวันๆ จะได้คิดว่าตนเองไม่เหมาะกับโลกยุคใหม่แล้ว ไอ้ที่คิดว่าหลังจบงานเกษียณจะไปเป็นที่ปรึกษา คงจะไม่มีใครปรึกษาแล้วล่ะ และจะไปต่อได้อย่างไรกัน
เพราะโลกความรู้และการทำงานแบบใหม่จะไล่ล่า กวาดล้าง และเก็บกวาดพวกหลงยุค หลงฝูง หลงเผ่า ไปกับคลื่นระลอกใหม่ในยุคที่ข้อมูลเป็นเชื้อเพลิงการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ ในอนาคตเราอาจจะเห็นคนต่างชาติมาดูแลงานไอทีของธนาคารพาณิชย์ ธนาคารของรัฐ หรือธนาคารกลางในประเทศสารขัณฑ์ก็ได้นะ (มีความเป็นไปได้นะ… ไม่ได้โม้)
จะเห็นได้ว่าคนยังเป็นเรื่องสำคัญขององค์กร แต่บางองค์กรอาจคิดเปลี่ยน มองว่าคนอาจเป็นต้นทุน แถมไม่มีการสร้างมูลค่าเพิ่มให้บริษัทได้อันนี้คือความผิดมหันต์ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญคือ ต้องหาคนที่ใช่ จ้างแพงไม่กลัวแต่อย่าจ้างผิด และบริหารให้ได้ใจเขาแล้วจะได้งานจากเขาแต่ถ้าคิดแบบ อันความสามัคคีนั้นดีอยู่แต่ต้องให้ตัวกูเป็นหัวหน้าแล้วละก็ รับรองว่าจมคลื่นระลอกใหม่ในทะเลการเงินแน่นอน…ขอบคุณครับ
เราทุกคนสามารถมีความก้าวหน้าและประสบความสำเร็จในชีวิตได้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ต้องเริ่มต้นจากการวางแผนที่ดีทั้งแผนการใช้ชีวิต แผนงานทางอาชีพ และที่สำคัญคือการวางแผนทางการเงินอย่างดีและเป็นขั้นเป็นตอน หากแผนงานทุกอย่างลงตัวทุกคนก็สามารถบรรลุถึงเป้าหมายสมดังที่ตั้งใจ และถึงแม้ว่าแต่ละคนจะมีเงินไม่เท่ากัน รายได้ต่างกันแต่ถ้ามีนิสัยการใช้เงินที่ดีมีแผนการทางการเงิน แบ่งสรรปันส่วนจัดการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทุกคนก็จะมีเงินเหลือเพื่อนำไปซื้อความมั่นงคงให้กับชีวิต และสามารถนำไปทำธุรกิจต่อยอดเพื่อให้เงินงอกเงยเพิ่มขึ้นมาอีกได้
คุณสมบัติส่วนใหญ่ของคนที่ประสบความสำเร็จและร่ำรวย
อุปนิสัยผู้มีความมั่นคงทางการเงินที่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
ยิ่งในยุคสมัยที่สังคมให้คุณค่ากับภาพลักษณ์ภายนอกด้วยแล้ว การมีวินัยและแผนการเงินจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราอยู่รอดได้อย่างยั่งยืน ดังนั้นการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ในวันนี้เป็นเรื่องดี แต่ก็ต้องอย่าลืมคิดถึงวันพรุ่งนี้ด้วยเช่นกัน
เรียบเรียงจากบทความของ ดร.ธนาวัฒน์ สิริวัฒน์ธนกุล www.posttoday.com
คนเจนวายนั้นมีเอกลักษณ์และความเป็นตัวตนสูงมาก ไม่ชอบทำอะไรในกรอบ มีความคิดเป็นของตัวเอง รักอิสระ และชอบเทคโนโลยี ซึ่งช่วงวัยในปัจจุบันคนกลุ่มนี้คืออยู่ในช่วงวัยทำงานและวัยเรียน ส่วนไลฟ์สไตล์แบบ คนเจนวายจึงถูกมองว่าเป็นวัยที่จ่ายตามใจตัวเอง มักมีปัญหาหนี้สินที่เกิดจากความต้องการ แต่ที่จริงแล้วสิ่งที่ทำให้คนเจนวายมีการแสดงออกทางสังคมแบบนี้มาจากการที่เกิดมาในครอบครัวที่มีความพร้อม คนกลุ่มนี้จึงถูกมองว่าเป็นพวกวัตถุนิยม เพราะนิสัยและค่านิยมของคนกลุ่มนี้จะไม่กลัวที่จะจ่ายเงิน กล้าใช้เงินซื้อความสุข ความพอใจ อยู่ยุคอินเทอร์เน็ต ที่มีข้อมูลข่าวสารพร้อม ผู้บริโภคกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มประชากรที่มีรายได้สูง มีกำลังซื้อสูง และจะเป็นผู้กำหนดความเป็นไปของโลกในอีก 20 ปีข้างหน้า ลักษณะชองคนเจนวายสามารถทำกิจกรรมหลาย ๆ อย่างได้ในเวลาเดียวกัน โดยร้อยละ 80 ใช้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต 2 ชนิด หรือมากกว่านั้นพร้อม ๆ กัน ในเวลาเดียวกับที่กำลังดูทีวี เป็นต้น ลองดูเพิ่มเติมใน แนวทางบริหารเงินแบบชิคๆ สไตล์หนุ่มสาว Gen Y https://www.ncb.co.th/fin-knowledge/money-management-style-gen-y
เพิ่มช่องทางรายได้สไตล์คนเจนวาย
เมื่อคนเจนวายใช้เงินเก่ง ก็ควรที่จะหาเงินเก่งด้วยเช่นกัน และด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ทำให้คนเจนวายมีโอกาสในการหารายได้เสริมได้ง่ายขึ้น และนี่เป็นไอเดียในการหารายได้เสริมในแบบฉบับชาวเจนวาย
ลงทุน…ออมเงิน เพิ่มรายได้ในแบบเจนวาย
สำหรับการออมเงินนั้นไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวว่าคนเจนวายควรออมเงินมากน้อยแค่ไหนต่อเดือน วิธีที่ง่ายที่สุด คือ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากเงินเดือน เช่น 10% ถึง 15% ของรายได้ทุกเดือน เป็นต้น ยิ่งฐานเงินเดือนเพิ่ม เปอร์เซ็นต์เงินออมจึงควรเพิ่มตามไปด้วย แม้คนเจนวายจะรู้เรื่องนี้แล้ว แต่ก็ทำได้ยาก ดังนั้น “ระบบตัดเงินอัตโนมัติ” คือคำตอบ ทันทีที่มีเงินเดือนเข้า มันจะถูกตัดไป บัญชีเพื่อการลงทุน หรือบัญชีเงินออม ก่อนเสมอ Gen Y ที่มีรายได้สูง มีแนวโน้มออมเงินในรูปแบบเงินฝากลดลง และสนใจลงทุนในกลุ่มที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงขึ้น
จัดการการเงินที่เหมาะสมในแบบคนเจนวาย
เรื่องของการเงินเป็นเรื่องที่ต้องวางแผน ถึงแม้จะอยู่ในวัยเจนวาย แต่ก็ต้องเตรียมการเผื่อวันข้างหน้า และวัยเกษียณด้วย การจัดการการเงินและการออมจึงเป็นเรื่องสำคัญ คิดใส่ใจเรื่องเงินในตอนนี้รบรองว่าชีวิตดีแน่นอน
คอลัมน์ เศรษฐกิจคิดง่ายๆ
การทำงาน ธปท. ต้องเร็วและกว้างขึ้น
นสพ.โพสต์ทูเดย์ วันจันทร์ที่ 31 ธันวาคม 2561
“การทำงานของ ธปท.ใน 1 ปีข้างหน้าต้องเร็วและกว้างขึ้น เพราะเศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ภาวะปกติและสภาพคล่องลดลง และเรื่องสงครามการค้าและปัญหาภูมิรัฐศาสตร์โลก รวมถึงการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ต้องติดตามความ ต่อเนื่องของโครงการลงทุน เพราะมีผลต่อเศรษฐกิจไทย”
คำกล่าวของท่านผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่มีการเผยแพร่ต่อสื่อมวลชนในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี ได้แสดงให้เห็นถึงภาพของความท้าทายและความไม่แน่นอนในหลายสิ่ง เช่น การเมืองระหว่างประเทศจะมีผลมายังระบบเศรษฐกิจไทย การเมืองภายในประเทศจะเป็นอย่างไรต่อไป
แม้แต่เรื่องของสภาวะอากาศและสภาพแวดล้อมอาจจะมีผลกระทบกับเกษตรกรที่มีจำนวน 5.76 ล้านครัวเรือน มีสมาชิก 15.65 ล้านคน ถือครองที่ดิน 12.80 ล้านแปลง สิ่งสำคัญมากๆ คือ เกือบ 40% ของครัวเรือนเกษตรกรไทยมีรายได้ต่อหัวต่อปีต่ำกว่าเส้นความยากจนของประเทศ คือ รายได้ไม่ถึง 3.2 หมื่นบาท/ปี หากเกษตรกรยังไม่ลืมตาอ้าปากได้ ตราบนั้นความมั่นคงยั่งยืนก็ยากที่จะเกิดในระบบเศรษฐกิจ การเมือง การปกครองได้
ท่านผู้ว่าการ ธปท.ได้เผยต่อไปอีกว่าในแผนยุทธศาสตร์ระยะ 3 ปี ธนาคารกลางทำได้แล้ว 65% ประกอบด้วย
(1) ระบบการชำระเงิน ซึ่งทำได้เร็วกว่าแผน ทั้งการลดค่าธรรมเนียม การชำระเงินผ่านอิเล็กทรอนิกส์ของภาคประชาชนแต่ในส่วนของภาคธุรกิจยังเดินค่อนข้างช้ากว่าแผน
(2) ด้านฐานข้อมูล (Data Analytic)ทำได้ดีและเร็วกว่าที่คาดไว้ ได้มีการนำมาประยุกต์ใช้และต่อยอดออกมาตรการ เช่น เกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน หรือมาตรการควบคุมอสังหาริมทรัพย์
(3) เสถียรภาพระบบการเงิน ความเชื่อมโยงทั้งกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ต้องสร้างความร่วมมือเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลาม
(4) ที่ยังไม่ได้ผลและต้องเร่งมือ คือ การเข้าถึงบริการทางการเงินของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME)
เรื่องของการอนุญาตให้นำ Information Base Lending มาใช้ในการพิจารณาสินเชื่อได้ โดยเฉพาะลูกค้าเอสเอ็มอีขนาดเล็กๆ หรือ SSME ที่เริ่มนำมาใช้มากขึ้น
เรื่องสุดท้ายที่สำคัญมากๆ ก็คือ สหกรณ์ออมทรัพย์ที่ยังเป็นความเสี่ยงของระบบ เพราะมีเงินฝากราว 15-20% ของทั้งระบบ ขณะนี้กฎหมายการส่งเสริมและการกำกับดูแลได้ผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว
ผู้เขียนขอเป็นแรงใจและขอให้กำลังใจทุกท่านที่กำหนดนโยบายสำหรับความท้าทายในปี 2562 แน่นอนว่า…มันคงไม่ง่าย แต่เชื่อได้ว่ามันจะถูกจัดการได้อย่างเหมาะสมบนความรู้ ความสามารถ และความมุ่งหมายที่จะให้ประเทศของเรา เศรษฐกิจเรามั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนนะครับ
ใกล้สิ้นปีอย่างนี้ ก็ต้องมีภาษีสังคมที่จะต้องเสีย ถึงจะมีโบนัส แต่เมื่อช้อปให้รางวัลชีวิตกับตัวเองบ้าง เลี้ยงฉลองแจกของขวัญไปบ้าง เผลออีกทีโบนัสหมดเกลี้ยงเลย แบบนี้จะเหลืออะไรบ้างนี่ ดังนั้นเราควรวางแผนการใช้เงินให้ดีๆ เพื่อที่ปลายปีนี้จะได้ฉลองเข้าสู่ปีใหม่ได้สุดฟิน
ในความเป็นจริงแล้ว การช้อปปิ้งในช่วงเทศกาล เป็นการใช้จ่ายที่สามารถวางแผนได้ เพราะเราจะรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าจะต้องใช้จ่ายอะไรบ้าง ดังนั้นถ้าไม่อยากช้อปจนเงินหมดก็ต้องใช้เงินอย่างมีการวางแผน และมีสติ เพื่อที่จะได้มีเงินเหลือเก็บเหลือใช้แถมได้ของครบครันด้วย
ลองอ่าน สายเปย์ไม่โอเค… ควบคุมการใช้จ่าย ก่อนหมดตัวนะคะซิส! แล้วจะรู้ว่ามีเงินเหลือใช้ให้เหลือเก็บมันจำเป็น
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
cookielawinfo-checkbox-advertisement | 1 year | Set by the GDPR Cookie Consent plugin, this cookie records the user consent for the cookies in the "Advertisement" category. |
cookielawinfo-checkbox-analytics | 1 year | Set by the GDPR Cookie Consent plugin, this cookie records the user consent for the cookies in the "Analytics" category. |
cookielawinfo-checkbox-necessary | 1 year | Set by the GDPR Cookie Consent plugin, this cookie records the user consent for the cookies in the "Necessary" category. |
cookielawinfo-checkbox-others | 1 year | Set by the GDPR Cookie Consent plugin, this cookie stores user consent for cookies in the category "Others". |
CookieLawInfoConsent | 1 year | CookieYes sets this cookie to record the default button state of the corresponding category and the status of CCPA. It works only in coordination with the primary cookie. |
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
_clck | 1 year | Microsoft Clarity sets this cookie to retain the browser's Clarity User ID and settings exclusive to that website. This guarantees that actions taken during subsequent visits to the same website will be linked to the same user ID. |
_clsk | 1 day | Microsoft Clarity sets this cookie to store and consolidate a user's pageviews into a single session recording. |
_fbp | 3 months | Facebook sets this cookie to display advertisements when either on Facebook or on a digital platform powered by Facebook advertising after visiting the website. |
_ga | 1 year 1 month 4 days | Google Analytics sets this cookie to calculate visitor, session and campaign data and track site usage for the site's analytics report. The cookie stores information anonymously and assigns a randomly generated number to recognise unique visitors. |
_ga_* | 1 year 1 month 4 days | Google Analytics sets this cookie to store and count page views. |
CLID | 1 year | Microsoft Clarity set this cookie to store information about how visitors interact with the website. The cookie helps to provide an analysis report. The data collection includes the number of visitors, where they visit the website, and the pages visited. |
CONSENT | 2 years | YouTube sets this cookie via embedded YouTube videos and registers anonymous statistical data. |
MR | 7 days | This cookie, set by Bing, is used to collect user information for analytics purposes. |
SM | session | Microsoft Clarity cookie set this cookie for synchronizing the MUID across Microsoft domains. |
SRM_B | 1 year 24 days | Used by Microsoft Advertising as a unique ID for visitors. |
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
ANONCHK | 10 minutes | The ANONCHK cookie, set by Bing, is used to store a user's session ID and verify ads' clicks on the Bing search engine. The cookie helps in reporting and personalization as well. |
MUID | 1 year 24 days | Bing sets this cookie to recognise unique web browsers visiting Microsoft sites. This cookie is used for advertising, site analytics, and other operations. |
VISITOR_INFO1_LIVE | 5 months 27 days | YouTube sets this cookie to measure bandwidth, determining whether the user gets the new or old player interface. |
YSC | session | Youtube sets this cookie to track the views of embedded videos on Youtube pages. |
yt-remote-connected-devices | never | YouTube sets this cookie to store the user's video preferences using embedded YouTube videos. |
yt-remote-device-id | never | YouTube sets this cookie to store the user's video preferences using embedded YouTube videos. |
yt.innertube::nextId | never | YouTube sets this cookie to register a unique ID to store data on what videos from YouTube the user has seen. |
yt.innertube::requests | never | YouTube sets this cookie to register a unique ID to store data on what videos from YouTube the user has seen. |
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
VISITOR_PRIVACY_METADATA | 5 months 27 days | Website privacy floating bar. |
wpsp_cookie_0cc33907ad | session | Website popup banner. |