Blog Page 62

ล้างหนี้ ปั้นเครดิตใหม่ สร้างวินัยทางการเงิน ฉบับมนุษย์เงินเดือน

ล้างหนี้ ปั้นเครดิตใหม่ สร้างวินัยทางการเงิน ฉบับมนุษย์เงินเดือน

ล้างหนี้ ปั้นเครดิตดี สร้างวินัยทางการเงินใหม่ ฉบับมนุษย์เงินเดือน

เชื่อว่าวงจรการเงินของมนุษย์เงินเดือนหลายคน คงจะไม่พ้นเรื่องของรายจ่ายหนี้สินที่ไม่ว่าจะมากจะน้อยก็ตาม ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะมาเป็นตัวขัดขวางแผนการเงินในอนาคตของเรา ดังนั้นถ้ามนุษย์เงินเดือนคนไหนอยากหลุดพ้นจากภาระหนี้สิน ควรมาดูวิธีดี ๆ ที่จะช่วยคุณสร้างวินัยทางการเงินขึ้นมามาให้กันดูค่ะ

  • วางแผนล้างหนี้เสีย

สำรวจตัวเอง และวางแผนชำระหนี้อย่างรอบคอบ รัดกุม ลิสต์รายละเอียดหนี้ที่เรามีว่ามีเท่าไหร่ และกับใคร เพื่อให้ง่ายต่อการชำระคืน โดยวิธีการล้างหนี้เสียที่ดีควรจะต้องรวบยอดหนี้สินทั้งหมด และจ่ายทบต้น ทบเบี้ยเป็นก้อนเดียว เพื่อไม่ให้เกิดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมาอีก

  • ปั้นเครดิตทางการเงินที่ดีใหม่

หากเราล้างหนี้ที่มีทั้งหมดเสร็จสิ้น ต่อมาควรปั้นเครดิตทางการเงินขึ้นมาใหม่ โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงินของตัวเอง ชำระหนี้ให้ตรงเวลา ไม่ค้างชำระ เพราะการที่มีเครดิตดีจะช่วยให้ง่ายต่อการขอสินเชื่อนั่นเองค่ะ

  • สร้างวินัยทางการเงินกับตัวเอง

หมั่นสร้างลักษณะนิสัยที่จะช่วยสร้างให้วินัยทางการเงินของคุณดีขึ้น เช่น ทำบันทึกรายรับ-รายจ่าย ออมเงินสม่ำเสมอ เป็นต้น ซึ่งหากทำเป็นประจำรับรองว่าวินัยทางการเงินจะดีขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ

  • เลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เสียประวัติการเงิน

ความน่ากลัวของการเป็นหนี้คือ การเคลียร์หนี้หมดแต่สุดท้ายก็กลับไปเป็นหนี้ใหม่ ฉะนั้นถ้าไม่อยากวนลูปกลับเข้าสู่วงจรเดิม ๆ ควรเลี่ยงพฤติกรรมในอดีตที่ทำให้เราเสียประวัติการเงินทั้งหมดค่ะ ไม่ว่าจะ ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ไม่วางแผนรายจ่าย ซื้อของแบรนด์เนม เป็นต้น

ถ้าหากคุณอยากมีเครดิตที่ดี ก็ต้องล้างหนีเสียที่มี เลี่ยงพฤติกรรม นิสัยที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดหนี้  สร้างวินัยทางการเงินขึ้นใหม่ เพียงเท่านี้มนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ๆ ก็จะมีความสุขกันอย่างถ้วนหน้าแน่นอนค่ะ

ขจัดหนี้บัตรเครดิตให้เห็นผล พลิกโฉมการเงินใหม่ชั่วข้ามคืน

ขจัดหนี้บัตรเครดิตให้เห็นผล พลิกโฉมการเงินใหม่ชั่วข้ามคืน

ขจัดหนี้บัตรเครดิตให้เห็นผล พลิกโฉมการเงินใหม่ชั่วข้ามคืน

เป็นหนี้ = บาดแผลทางการเงิน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนี้บัตรเครดิตที่จากสถิติคนไทยก่อหนี้ประเภทนี้เป็นอันดับต้น ๆ ของทุกปี หลายคนเมื่อเป็นหนี้ก็ไม่ยอมรับว่าเป็นหนี้ กลับหนี้ความเป็นจริง ผลักภาระความรับผิดชอบ จนกลายเป็นว่าเครดิตทางการเงินเสีย อยากจะทำธุรกรรมทางการเงินอื่น ๆ ก็ไม่ผ่าน

ดังนั้นเพื่อต้องการให้แผนการเงินของเราเฉิดฉายขึ้นมาใหม่ มีแผนการเงินที่สดใส ลองมาดูแนวทางในการขจัดหนี้บัตรเครดิต เพื่อพลิกโฉมการเงินใหม่กันค่ะ

  1. หยุดการจ่ายขั้นต่ำ

ยิ่งจ่ายขั้นต่ำเท่ากับว่าเราจะยิ่งเป็นหนี้เพิ่มมากขึ้นเพราะดอกเบี้ยทบต้นที่จะสะสมในแต่ละวันไม่ลดลง ทางที่ดีที่สุดในการขจัดหนี้ออกไปคือการชำระหนี้สินทั้งหมดที่มีโดยเร็วที่สุด ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น อดทนต่อสิ่งเร้ารอบข้าง พยายามไม่ก่อหนี้สินขึ้นมาใหม่

  1. เรียงลำดับการปิดหนี้สิน

ถ้าหากมีหนี้บัตรเครดิตหลายใบ หรือมีหนี้สินอื่น ๆ มากกว่า 1 อย่าง ให้เราจัดลำดับหนี้สินทั้งหมด เรียงจากหนี้สินที่มีดอกเบี้ยมากที่สุดไล่จนไปถึงหนี้สินที่มีดอกเบี้ยน้อยที่สุด การเรียงลำดับหนี้สินแบบนี้จะช่วยให้เราสามารถจัดการรายจ่าย นำเงินที่ได้ไปโปะหนี้คงค้างชำระก้อนใหญ่ที่สุด เป็นการลดดอกเบี้ยที่จะเกิดในอนาคต และเมื่อจัดการปิดหนี้ก้อนใหญ่แล้ว ก็ค่อย ๆ หาเงินมาปิดหนี้สินในลำดับอื่น ๆ ต่อค่ะ

  1. ประเมินความสามารถการชำระหนี้

เมื่อเห็นสิ่งของใหม่ ๆ น่าสนใจเราก็เผลอไผลไปว่าของมันต้องมี จนลืมคำนวณรายรับ และรายจ่ายที่เรามี แต่เมื่อเรียนผูกก็ต้องเรียนแก้เมื่อก่อหนี้ขึ้นมาแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือการประเมินความสามารถการชำระหนี้ในแต่ละเดือน ว่าเมื่อหักรายจ่ายส่วนอื่น ๆ เราจะสามารถชำระหนี้ได้ในจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งแน่นอนว่าเราควรที่จะปิดหนี้ให้จบโดยเร็วที่สุด แต่ถ้าไม่ก็ต้องหมั่นมีวินัยทางการเงิน ชำระหนี้ตรงต่อเวลาเสมอ

  1. ใช้จ่ายด้วยเงินสดเท่านั้น

แม้ว่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจะมีสิทธิพิเศษต่าง ๆ มากมาย แต่ถ้าหากใช้จ่ายเกินตัว ก็จะทำให้เกิดหนี้ได้เช่นกันค่ะ เช่นนั้นถึงได้มีคำกล่าวที่บอกว่า การใช้จ่ายเงินสดคือดีที่สุด ซึ่งการใช้จ่ายด้วยเงินสดจะช่วยให้เราฉุกคิดก่อน ไม่กล้าที่จะใช้จ่ายอะไรแพงเกินกว่ารายได้ที่เราหามานั่นเองค่ะ

  1. รัดเข็มขัด สร้างวินัยทางการเงิน

หนทางที่จะขจัดหนี้ออกห่างจากตัวเราที่ดีที่สุดคือการสร้างวินัยทางการเงิน และรักษาวินัยนั้นอย่างเคร่งครัด และรัดเข็มขัดในการใช้จ่าย เพื่อไม่ให้กลับเข้าไปสู่วงจรหนี้อย่างที่เคยเป็นมาอีก

คำแนะนำเหล่านี้อาจจะฟังดูเป็นทฤษฎีมากไปสักหน่อย แต่ท้ายที่สุดแล้วเราจะเริ่มลงมือทำไม่ได้หากไม่รู้จักเรียนรู้ทฤษฎีเพื่อนำมาปรับใช้ หากได้ลองเริ่มแล้วหาทางอนาคตที่สดใสก็จะตามมา พร้อมกับพลิกโฉมการเงินสู่การเป็นคนใหม่อย่างแน่นอนค่ะ

6 นิสัยที่ทำลายชีวิตการเงิน ถ้าอยากมั่นคง โปรดอย่าหาทำ

6 นิสัยที่ทำลายชีวิตการเงิน ถ้าอยากมั่นคง โปรดอย่าหาทำ

6 นิสัยที่ทำลายชีวิตการเงิน ถ้าอยากมั่นคง โปรดอย่าหาทำ

มนุษย์เงินเดือนหลายคนมักจะเกิดคำถามที่ว่า ทำงานมานานแต่ไม่มีเงินเก็บเหมือนใครเขาสักที ทีนี้เราก็ต้องลองย้อนกลับไปว่าค่าใช้จ่ายที่เราหมดไปแต่ละเดือนนั้นหมดไปกับอะไร และเราได้มีพฤติกรรม หรือนิสัยที่กำลังจะ “ทำลายชีวิตการเงิน” ของตัวเองอยู่หรือเปล่า

แต่ถ้าหากยังนึกภาพไม่ออก มาลองสำรวจ 6 ชีวิตนี้กันดูว่าเรากำลังสุ่มเสี่ยงต่อการทำลายชีวิตการเงินหรือเปล่ากันดูค่ะ

  1. ชีวิตติดหรู

ติดหรูในที่นี้ไม่ใช่แค่ซื้อของแบรนด์เนมมีราคา มาใช้แต่เพียงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงอาหารการกิน ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่มีความใช้จ่ายเกินความจำเป็น หรือเกินรายได้ของตัวเอง จนบางครั้งอาจร้ายแรงถึงขั้นต้องกู้หนี้ยืมสินผู้อื่นเพื่อนำเงินมาใช้ให้ชีวิตตัวเองมีความสบาย โดยไม่คำนึงถึงความลำบากในอนาคต

  1. ชีวิตติดเทรนด์

กระแสช่วงนี้สินค้านี้กำลังมาต้องรีบซื้อ ช่วงนี้เมนูนี้ต้องลองแม้จะแพงแค่ไหนก็ตาม หากเราใช้ชีวิตตามเทรนด์ เห็นของใหม่ต้องรีบซื้อ ของมันต้องมีต้องรีบจัด ระวังว่าเมื่อถึงสิ้นเดือนทีใบแจ้งหนี้ถามหากันรัว ๆ กันนะคะ

  1. ชีวิตติดสังคม

ปาร์ตี้สังสรรค์ นัดเจอเพื่อนกันสัปดาห์ละครั้ง ครั้งหนึ่งเสียหายหลายพัน หนักสุดออกตัวจ่ายแทนเพื่อน ๆ ทุกครั้งไป ถึงแม้ว่าเรื่องของการเข้าสังคมเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ก็ควรมีความเหมาะสมด้วยเช่นกันค่ะ โดยเฉพาะด้านการเงินที่ควรจัดสรรอย่างพอดี ไม่จำเป็นต้องสายเปย์ออกตัวจ่ายทุกครั้ง แชร์กันบ้างก็เป็นเรื่องที่ดีนะคะ

  1. ชีวิตติดเที่ยว

ในชีวิตของทุกคนล้วนต้องการการพักผ่อน แต่ควรมีการพักให้อยู่ในกรอบจำกัดที่เรากำหนด เช่น เที่ยวเดือนละ 1 ครั้ง จากปกติเที่ยวสัปดาห์ละครั้ง เป็นต้น ไม่ใช่ว่าว่างเป็นเที่ยว เปิดทริป นัดกลุ่มทัวร์ทุกสัปดาห์ หรือมองหาตั๋วราคาถูกล่วงหน้าหลาย ๆ เดือน แม้ว่าจะได้ไปหรือไม่ได้ไปก็ตาม แบบนั้นจะทำให้เราเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็นไปได้ค่ะ

  1. ชีวิตติดโชค

ไม่ว่าจะเป็นล็อตเตอรี หรืออะไรก็ตามที่จะทำให้ชีวิตเรารวยทางลัด ถือว่าเป็นการใช้ชีวิตแบบติดโชคทั้งหมด ซึ่งหากลองมาคำนวณคร่าว ๆ ต่อเดือนกับจำนวนเงินที่เสียไป เราอาจจะสามารถนำเงินก้อนนั้นไปลงทุนเพื่อให้เงินงอกเงยได้มากกว่า

  1. ชีวิตติดหนี้

จุดเริ่มต้นทำลายความมั่นคงทางการเงินอย่างเต็มรูปแบบ คือการใช้ชีวิตด้วยรูปแบบดังกล่าวทั้งหมดที่ว่ามา จนได้เข้าสู่วงจรการเป็นหนี้  และเมื่อเข้าไปสู่จุดนั้นก็เป็นจุดที่จะทำลายแผนชีวิตการเงินของคุณอย่างสมบูรณ์แล้วล่ะค่ะ

ดังนั้นถ้าหากคุณต้องการที่จะมีชีวิตมั่นคง ไม่มีภาระหนี้สิน รวมไปถึงอิสรภาพทางการเงินที่ดี เพียงแค่หยุดนิสัยเหล่านี้ ก็จะช่วยให้ชีวิตการเงินของคุณดีขึ้นทันตาเห็นเลยล่ะค่ะ

5 แนวคิดการเงินดี ๆ เปลี่ยนชีวิตให้รวยในพริบตา

5 แนวคิดการเงินดี ๆ เปลี่ยนชีวิตให้รวยในพริบตา

5 แนวคิดการเงินดี ๆ เปลี่ยนชีวิตให้รวยในพริบตา

ถ้าให้ลองถามว่า “ใครอยากรวย” เชื่อว่าทุกคนคงจะต้องยกมือขึ้นมาอย่างแน่นอน แต่การที่เราจะเปลี่ยนชีวิตของเราให้รวยแบบพริบตานั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าหากยังไม่เปลี่ยนแนวคิดทางเงิน หรือความเชื่อในแบบเดิม ๆ แล้วแนวคิดการเงินดี ๆ แบบไหนกันล่ะ ที่จะช่วยให้ชีวิตการเงินของคุณดีขึ้นมาทันตา ลองมาดูกันค่ะ

  1. อย่ามีข้ออ้างในการใช้เงิน

ถ้าหากเราต้องการที่จะเปลี่ยนชีวิตการเงินของตัวเองใหม่ ต้องตัดข้ออ้างที่ตั้งกฎเกณฑ์ขึ้นมาทั้งหมดออกไป เพราะสิ่งเหล่านั้นถือเป็นกับดักในการขัดขวางเส้นทางสู่อิสรภาพทางการเงิน ต้องเริ่มต้นลงมือทำ วางแผนการเงินขึ้นมาใหม่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการอย่างดีที่สุด

  1. ความเรียบง่ายคือแผนการเงินที่ดีที่สุด

บางทีจุดเริ่มต้นเส้นทางการเป็นเศรษฐีอาจจะเริ่มจากความเรียบง่ายในการใช้ชีวิตเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น เลือกซื้อของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เลือกร้านอาหารที่ไม่หรูหราจนเกินไป เป็นต้น การที่เราลองใช้ชีวิตโดยตั้งคำถามในการใช้จ่ายก่อนทุกครั้ง ถามย้ำ ๆ ว่าสิ่งนั้นจำเป็นต่อชีวิตเราหรือไม่ จะช่วยให้สามารถตัดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นในชีวิตออกไป และมีความสุข

  1. อยากซื้ออะไรต้องใช้จ่ายด้วยเงินสดเท่านั้น

เพราะจ่ายใช้จ่ายด้วยเงินสดเท่ากับว่าเราจะไม่ต้องเป็นหนี้บัตรเครดิต ไม่ต้องมีดอกเบี้ยทบต้นตามมา ไม่ต้องคอยกังวลว่าใบแจ้งหนี้จะมาทวงถามเมื่อไหร่ ช่วยให้เรารู้พฤติกรรมการใช้จ่ายของเราได้ ทำให้จัดสรรการเงินได้ง่ายยิ่งขึ้น และยิ่งสร้างกำลังใจในการเก็บออมของเราเพื่อให้ได้ของที่อยากได้ด้วย

  1. ใช้เงินต้องมองภาพรวมไปถึงอนาคต

อนาคตเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน ก่อนใช้เงินใช้จ่ายอะไร นอกจากความพึงพอใจในปัจจุบันก็ควรมองในเรื่องของอนาคตด้วย และไม่ควรคิดว่า เดี๋ยวเดือนหน้าก็มีรายได้เข้ามา ซึ่งวิธีการคิดโดยหาเหตุผลมาสนับสนุนเข้าข้างเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และทำให้เราขาดการระมัดระวังในการใช้จ่ายได้ ดังนั้นการใช้จ่ายทุกครั้งให้มองในถึงอนาคตว่าหากเราซื้อของสิ่งนี้ไปแล้วจะช่วยเติมเต็มอนาคตเรายังไง ถ้าไม่ก็แค่ตัดทิ้งไปค่ะ

  1. แบ่งจ่ายการเงิน ให้เงินออกน้อยกว่าเข้า

ถ้าอยากจะรวย สิ่งที่ต้องปรับเปลี่ยนมากที่สุดคือการเปลี่ยนให้เงินออกน้อยกว่าเงินเข้า แบ่งสัดส่วนรายรับ จัดสรรรายจ่ายให้มีเงินออกจากบัญชีให้น้อยที่สุด เพื่อให้ในแต่ละเดือนเรามีเงินเก็บออมเป็นเงินสำรองยามฉุกเฉิน และมีกระแสเงินสดใช้ได้อย่างไม่ขาดมือ ซึ่งถ้าเราสามารถปรับแนวคิดใหม่ตามนี้ได้ เส้นทางรวยของเราก็อยู่ไม่ไกลแน่นอนค่ะ

แนวคิดการเงินเหล่านี้ เป็นเพียงแค่ข้อแนะนำเล็ก ๆ ที่ไม่ว่าใครก็สามารถนำไปปรับใช้กันได้ง่าย ๆ แต่ทฤษฎีถ้าจะให้เห็นผลที่สุดคือการลงมือปฏิบัติ แค่เริ่มเปลี่ยนวันละนิด ชีวิตการเงินของคุณจะดีขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ

ตู้ ATM ก็ตรวจเครดิตบูโรได้เหมือนกัน

ตรวจเครดิตบูโร

ตรวจเครดิตบูโรอย่างง่าย เดินไปตู้ ATM ก็ได้ไม่ต้องไปถึงธนาคาร

สำหรับท่านใดไม่สะดวกเดินทางไปธนาคาร ก็สามารถตรวจผ่านตู้ ATM ได้เช่นกันค่ะโดยธนาคารที่ให้บริการผ่านตู้ ATM ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารไทยพาณิชย์
รับรายงานทางไปรษณีย์ลงทะเบียนภายใน 7 ทำการ

อ่านข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.ncb.co.th/check-your-credit-bank/chk_atm

———————————————–

ข้อมูลเพิ่มเติม
🌐 www.ncb.co.th
💌 consumer@ncb.co.th
👥 Facebook : ilovebureau
▶️ YouTube : ilovebureau
🖼 Instagram : ilovebureau
📲 Line : @ilovebureau
Bureau Chatbot Add Friend : https://lin.ee/o0AQ8ya

———————————————–

ตรวจเครดิตบูโรธนาคารกรุงไทย สำหรับลูกค้าของธนาคารที่ถือบัตร ATM และบัตรเดบิต

ตรวจเครดิตบูโรขั้นตอนการตรวจสอบเครดิตบูโรด้วยตนเอง
1. กรอกรหัสบัตร ATM ของท่าน
2. เลือกรายการ “อื่น” >> สมัครบริการ/ตรวจสอบข้อมูลเครดิต (NCB)
3. ตรวจสอบเงื่อนไข ก่อนกด “ยืนยัน”
4. กรอกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน และหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้
5. ตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวโดยละเอียดและกด “ยืนยัน”

 

ตรวจเครดิตบูโรธนาคารไทยพาณิชย์ สำหรับลูกค้าของธนาคารที่ถือบัตร ATM , บัตรเดบิต และบัตรเครดิต (ที่ใช้เป็นบัตรเอทีเอ็ม)

ตรวจเครดิตบูโรขั้นตอนการตรวจสอบเครดิตบูโรด้วยตนเอง
1. กรอกรหัสบัตร ATM ของท่าน
2. เลือกเมนู “บริการอื่น ๆ”
3. ไปที่ ตรวจสอบข้อมูล อ่านเงื่อนไขข้อตกลงก่อนกด “ตกลง”
4. กรอกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน และหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้
5. ตรวจสอบข้อมูลส่วนตัว รายละเอียดที่อยู่ และกด “ยืนยัน”

วันที่ 16 เมษายน 2564 การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยกับ “ภาวะหนี้ครัวเรือนสูง”

วันที่ 16 เมษายน 2564 การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยกับ “ภาวะหนี้ครัวเรือนสูง”
– วินัยทางการเงิน
– วินัยด้านสาธารณสุข
– วินัยของตนเอง

รายการวิทยุ รู้รักสามัคคี ทำความดีเพื่อแผ่นดิน
ทุกวันศุกร์ เวลา 12.30-13.00 น. FM 103 MHz

วันที่ 9 เมษายน 2564 มาตราการด้านสาธารณสุข เพื่อลดการแพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์

วันที่ 9 เมษายน 2564

มาตราการด้านสาธารณสุข เพื่อลดการแพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์

รายการวิทยุ รู้รักสามัคคี ทำความดีเพื่อแผ่นดิน
ทุกวันศุกร์ เวลา 12.30-13.00 น. FM 103 MHz

วันที่ 2 เมษายน 2564 มาตราการ “โกดังเก็บหนี้” จากภาครัฐและเอกชนช่วยเหลือธุรกิจ ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบให้อยู่รอด

วันที่ 2 เมษายน 2564

มาตราการ “โกดังเก็บหนี้” จากภาครัฐและเอกชนช่วยเหลือธุรกิจ ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบให้อยู่รอด

รายการวิทยุ รู้รักสามัคคี ทำความดีเพื่อแผ่นดิน
ทุกวันศุกร์ เวลา 12.30-13.00 น. FM 103 MHz

เศรษฐกิจคิดง่ายๆ (ดิจิทัล) : บ้านเรา… ต้องร้องเพลงสะท้อน​ปัญหา… ถึงจะมีคนได้ยิน : วันจันทร์ที่ 19 เมษายน2564

บ้านเรา… ต้องร้องเพลงสะท้อน​ปัญหา… ถึงจะมีคนได้ยิน

ในช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลสงกรานต์​ที่ไร้การสาดน้ำ ไม่มีใครสนใจตัวเลข​ 7 วันอันตราย​ ทุกคนไม่ว่ายาก-ดี-มี-จน ต่างขวัญผวากับการระบาดโควิด-19 รอบ​ใหม่​ สายพันธุ์​ใหม่​ จากสถานบันเทิงเริงใจที่เป็นปัญหาเก่า ๆ​ บวกนิสัยใจคอของความไม่คิดถึงเภทภัยและใจคนอื่นในบ้านในเมือง​ มันเลยออกมาแบบเละเทะ​ ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็คือ มีคนเมาในวันที่เขาห้ามขายเหล้า​ เมาแล้วอาละวาด​ เมาแล้วอาเจียน​ พอเจอคนเอาพัดลมมาพัดแรง ๆ​ อาเจียนก็กระจายกระเด็นไปโดนผู้คนที่สัญจรไปมา​ แถมกระเด็นไปโดนพวกไทยมุงอีกเป็นพวง​ พอทุกคนที่โดนกลับบ้านต่างก็เอาเชื้อกลับไปสู่ครอบครัว​ หมู่เหล่าของตนเองด้วย​ 

ในท่ามกลางความกลัว​ ความกังวล​ ความไม่สบายใจ​ ก็มีศิลปินกลุ่มหนึ่งซึ่งคงจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 นี้ ได้ออกเพลงที่ขึ้นต้นไว้น่าสนใจว่า​ “ฉันยังไม่ติด…” เพลง ๆ นี้มีความหมายนะครับ​ แม้จะไม่ติดเชื้อไวรัส​โควิด-19 หากแต่ผลกระทบของมันต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนที่มีเรื่องรายได้ต้องหา​ ค่าใช้จ่ายต้องมี​ เป็นหนี้ก็ต้องหามาใช้​ ซึ่งสภาวะ​ Income​ shock ที่กำลังเกิดขึ้นนั้นจะจัดการมันไปให้ราบรื่นได้อย่างไร

มีเพื่อนฝูงผู้เขียนส่งมาให้พร้อมถามว่า​ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร)​ ถูกกล่าวถึงด้วยในเนื้อเพลง​ และถามต่อว่าเครดิตบูโรเป็นสปอนเซอร์​ด้วยหรือไม่​ ต้องขอเรียนดังนี้นะครับ​ 

1.เพลงถูกทำขึ้นมาในช่วงเวลาที่เหมาะสมมาก​ ตอบโจทย์​ความรู้สึก​ ความเป็นจริง​ เข้าถึงจิตใจใคร ๆ หลายคนมาก​ ต้องขอชื่นชมผู้คิดทำมาด้วยความเคารพยิ่ง

2.เครดิตบูโร​ไม่ได้เป็นสปอนเซอร์​อะไรกับเพลงนี้เลยครับ​ เราก็มาทราบพร้อม ๆ กับท่านผู้ฟังเพลงนี้แหละครับ

3.เราอยากนำเนื้อเพลงมาสื่อสารต่อไปยังทุก ๆ ท่านที่มีพลัง​ มีอำนาจ​ มีส่วนเกี่ยวข้อง​ ในการแก้ไขปัญหาของคนที่บอกตัวเองว่าฉันยังไม่ติดไวรัส​โควิด-19 แต่ฉันมีปัญหาด้านการชำระหนี้แล้ว​ ต้องการความช่วยเหลือตั้งแต่ค่าสาธารณูปโภค​ที่ต้องใช้ของหลวง​ แม้จะมีเงินเก็บบ้างแต่มันก็ไม่พอ หรือหมดไปแล้ว​ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงประวัติในการชำระหนี้ที่กำลังจะครบกำหนดการจ่าย เพราะถ้าไม่ไปจ่ายให้กับเจ้าหนี้ตามเวลาที่ตกลงกันไว้ ก็จะกลายเป็นคนผิดนัดชำ​ระ​หนี้​ในบัญชีสินเชื่อดังกล่าว​ ภาษาชาวบ้านก็คือ​ ติดเครดิตบูโร​ ซึ่งหมายถึงการมีประวัติผิดนัดชำระหนี้ในบัญชีสินเชื่อกับสถาบันการเงินในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง​ ประวัติที่ไม่ค่อยดีแบบนี้จะส่งผลให้ตนเองมีความยากลำบากในการยื่นขอสินเชื่อในอนาคตนั่นเอง​ นอกจากนี้ เพลงยังพูดถึงวิถีการดำเนินชีวิตในปัจจุบันที่จะรู้สึกเครียดแล้วเครียดอีกตามตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อที่แถลงออกมาในแต่ละวัน​ ในตอนท้ายของเพลงศิลปินได้ร้องขอมาตรการพักการชำระหนี้ มาตรการให้ความช่วยเหลือ​ เพื่อผ่อนหนักเป็นเบา​ เยียวยาความลำบากมายังท่านที่เกี่ยวข้องนะครับ​ ขอได้โปรดฟังเพลง​ จิบกาแฟ​ คิดหาหนทางให้ด้วยนะครับท่าน​ เนื้อหาของเพลงก็มีดังนี้

 

ฉันยังไม่ติด…

แต่มีปัญหา… ค่าน้ำ ค่ารถ ค่าไฟ

ขอโทษ.. กักตังค์เอาไว้ แต่ไม่พอ

ฉันยังไม่ติด..

แต่ความเสี่ยงสูง.. จะติ๊ด เคร

ขอเลื่อน.. จากการชำระ อีกได้ไหม

 

นกที่ตื่นเช้า ช่วงนี้

รอข่าวดีจากผลตรวจ

จะบวก จะลบ จะส่งผลมาเมื่อไร

ทั้ง ๆ ที่อยากรู้ แต่กลัวรับมันไม่ได้

ปิดเครื่องดีไหม? หรือเปิดเอาไว้?

เฮ้ย! เอาไงดี

 

อย่าเลย อย่าถามถึงความรู้สึก

อึดอัด นอย ปวดหัว แล้วตัวก็เริ่มร้อน

แอบสังหรณ์ในใจ ว่ากูจะติดไหมว้าาาา

 

ฉันยังไม่ติด..

แต่มีปัญหา.. ค่าน้ำ ค่ารถ ค่าไฟ

ขอโทษ.. กักตังค์เอาไว้ แต่ไม่พอ

ฉันยังไม่ติด..

แต่ความเสี่ยงสูง.. จะติ๊ด เครดิ๊ตบูโร

ขอเลื่อน.. จากการชำระ อีกได้ไหม

นอยครับ..หนี้เต็ม ๆ

 

ผู้เขียนขอขอบคุณ​ เพลงแปลง.. นอยครับ จากวงเกะกะ​ พี่ปู​ Rockstar Cafe และทุกท่านที่เกี่ยวข้องด้วยนะครับ

เรื่องน่าอ่าน